มันสำปะหลังเป็นพืชที่ทนแล้ง ทนทานต่อสภาพแห้งแล้งได้ดี ต้องการน้ำน้อย จัดเป็นพืชหัวชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นไม้พุ่มยืนต้น มีอายุอยู่ได้หลายปี เป็นพืชอาหารที่ใช้เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต เป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อความแห้งแล้ง ปัญหาโรคแมลงมีน้อย การเก็บเกี่ยวไม่ขึ้นกับฤดูกาลจึงสามารถจะชะลอการเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งถ้าพิจารณาจากปริมาณการผลิตพืชอาหารทั่วโลกมันสำปะหลังจัดอยู่ในลำดับที่ 8 ของ 10 อันดับแรกของพืชเศรษฐกิจโลก โดยปลูก 2 ฤดู คือ 1.ช่วงต้นฝน (มี.ค. – พ.ค.) จะมีอายุประมาณ 4-6 เดือน และ 2.ช่วงปลายฝน (ต.ค. – ธ.ค.) จะมีอายุประมาณ 8 – 10 เดือน
ปัจจุบันเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังโดยใช้สารเคมีค่อนข้างมาก จึงทำให้มีต้นทุนสูง แต่ผลผลิตกลับได้น้อย ไม่คุ้มทุน การใช้ไร่เทพอินทรีย์วัตถุในการบำรุงมันสำปะหลังอย่างครบวงจร จึงกลายเป็นทางเลือกที่เกษตรกรหันมาให้ความสำคัญ เพื่อลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน การปลูกพืชชนิดเดียวกันด้วยต้นทุนการผลิตที่ต่างกัน ทำให้ผู้ผลิตที่มีต้นทุนต่ำมีความเสี่ยงน้อยต่อความผันผวนของราคาผลผลิต
การดูแลและเพิ่มผลผิตมันสำปะหลัง การใช้ไร่เทพ อาหารเสริมพืช อินทรีย์วัตถุมีลักษณะเป็นผง ใช้ผสมน้ำน้ำฉีดพ่นทางใบ โดยอัตรส่วน ไร่เทพ 1 ซอง ต่อน้ำ 100 ลิตร ฉีดพ่นได้ 3- 5 ไร่ ฉีดพ่นเป็นละออง ฉีดพ่นทุก 10-15 วันหรือรดลงดินเพื่อใช้ในการปรับปรุงดิน รวมถึงช่วยต้านโรคและแมลง ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มกำไรให้แก่เกษตรกร นอกจากการนี้แล้วเกษตรกรอาจใช้ปุ๋ยพืชสดร่วมด้วย โดยการปลูกพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเขียว ถั่วพุ่ม หรือปอเทือง แล้วไถกลบในระยะก่อนออกดอก หรือปลูกพืชแซมที่ช่วยบำรุงดินปลูกระหว่างแถว เพื่อช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินได้อีกวิธีหนึ่ง
โดยไร่เทพจะช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินให้คงสภาพเดิมเพื่อได้ผลผลิตสูงได้ยาวนาน จากนั้นจึงปลูกมันสำปะหลัง นอกเหนือจากการปรับปรุงบำรุงดินร่วมกับการอนุรักษ์ดิน และการใช้พันธุ์มันสำปะหลังพันธุ์ดีแล้ว การจัดการดูแลดี โดยเริ่มตั้งแต่ ฤดูการปลูกที่เหมาะสม การเตรียมดินดี การเตรียมท่อนพันธุ์ปลูก ระยะปลูกที่เหมาะสมตลอดจนการใช้ปุ๋ยเคมีในอัตราที่เหมาะสม การกำจัดวัชพืชถือเป็นปัจจัยที่ทำให้ผลผลิตสูงขึ้น โดยเฉพาะการเอาใจใส่ในการเตรียมท่อนพันธุ์จะมีผลทำให้ความอร่อยของมันสำปะหลังสูงขึ้น โดยเฉพาะการเอาใจใส่ในการเตรียมท่อนพันธุ์จะมีผลทำให้อัตราความอยู่รอดของมันสำปะหลังสูงขึ้น