การทำนาโดยไม่เผาฟางข้าว

เรียบเรียงโดย ดร.ธเนส สุขสมพงษ์

 

บทนำ

                ประเทศไทย เป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก โดย ในปี 2566 ที่ผ่านมา ไทยสามารถส่งข้าวออกสู่ตลาดโลกได้มากถึง 8.76 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 13.62% โดยเป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับที่ 2 ของโลก รองจาก อินเดีย ซึ่งด้วยความต้องการอาหารของโลก และราคาข้าวในปัจจุบัน ทำให้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าว เพิ่มรอบเพาะปลูก และเพิ่มพื้นที่ในการปลูกข้าวมากขึ้น แต่หากพิจารณา ระบบการจัดการนาข้าวของไทย จะพบว่า มีปัญหา การเผาฟางมาก ส่งผลต่อ คุณภาพอากาศ โดยก่อให้เกิด PM 2.5 ซึ่งเป็นภัยต่อสุขภาพของตัวเกษตรกร และ ผู้อยู่อาศัยโดยรอบอย่างมาก อีกทั้งอาจก่อให้เกิดอันตรายจากเพลิงไหม้ จากปัญหาดังกล่าว ไร่เทพ จึงได้มีการทำแปลงนาเพื่อศึกษา วิธีการจัดการนาข้าว และการวิจัยเกี่ยวกับการส่งเสริมการเจริญเติบโต ของต้นข้าว รวมทั้งวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ จากการทำแปลงทดลองจริง โดยมีการนำ วิธีการที่ใช้ได้ผลจริงจาก เกษตรกรตัวอย่าง รวมทั้งวิธีการจากกรมวิชาการเกษตร ที่แนะนำเกษตรกรเพื่อนำมา ประยุกต์ใช้ โดยมีวิธีการดังนี้

 

การทำนาโดยไม่เผาฟางข้าว สามารถทำได้โดยมีวิธีการดังนี้

  1. หลังจากเกี่ยวข้าวแล้ว ควรปล่อยฟางข้าวให้แห้งมากที่สุด โดยใช้เวลา 7-14 วัน เป็นอย่างต่ำ โดยไม่ควรใส่น้ำลงในนาข้าวในช่วงนี้ เพราะ ฟางข้าวสดจะมีค่าอินทรียวัตถุต่อน้ำหนักมาก เมื่อฟางข้าวสดเหล่านี้ย่อยสลายแบบไร้อากาศ (แช่ในน้ำ) จะเกิดก๊าซมีเทน ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบรากข้าวในรุ่นต่อไปได้
  2. หลังจากทิ้งฟางข้าวให้แห้งครบ 7-14 วัน (ทิ้งไว้นานกว่านี้ได้ เพราะฟางยิ่งแห้งยิ่งดี) ให้ปล่อยน้ำเข้านาให้ท่วมฟางข้าว โดยควรเพิ่มสารช่วยช่อยสลายฟางไปด้วย เช่น หัวเชื้อ EM หรือสารอาหารที่เพิ่มการย่อย ได้แก่ ดินเทพ (ฉีดพ่นฟาง หรือ ผสมน้ำ แล้วปล่อยตรงจุดที่ปล่อยน้ำเข้านา) ทิ้งไว้ 2-3 วัน
  3. หลังจากพ่นสาร EM หรือ อาหารจุลินทรีย์ ดินเทพ ตามข้อที่ 2 แล้ว ทิ้งไว้ อย่างน้อย 2-3 วัน ใช้รถย่ำนา โดย ย่ำ ตามรอยรถเกี่ยวข้าว 1 รอบ และ ย่ำตามขวาง 1 รอบ เพื่อเป็นการกระจายฟางข้าวไม่ให้ไปสะสมในจุดใดจุดหนึ่งมากเกินไป จากนั้นทิ้งไว้ 2-3 วัน (กรณีเป็นรถไถเดินตาม รอบแรกให้ถอด สกี ออกก่อน เพราะอาจจะทำให้ฟางติดได้)
  4. หลังจากย่ำฟางตามข้อที่ 3 แล้ว ให้ทำซ้ำอีก 2 รอบ (รวมย่ำฟาง 3 รอบ) โดยรอบสุดท้าย ให้ปล่อยน้ำเข้าแบบเสมอดิน (ภาษาชาวนาเรียกว่า ขลุกขลิก) ทิ้งไว้ 2-3 วัน (ฟางจะยุ่ย ยุบ และจมดินแล้ว)
  5. หลังจากย่ำฟางรอบ 3 และทิ้งไว้ 2-3 วันแล้ว สามารถทำการปรับสภาพผิวดิน (ขั้นตอนลูบเทือก โดยใช้กระดาน) เพื่อทำการหว่างข้าวในขั้นตอนต่อไป

**** กรณี สามารถหมักฟางในนาข้าว ได้นานกว่า 14 วัน และใช้สารช่วยย่อยสลายที่มีประสิทธิภาพ สามารถ ลดขั้นตอนการย่ำเหลือเพียง 2 รอบ (จากเดิม 3 รอบ)

*** กรณีใช้รถตีดิน หลังจากหมักฟางข้าว รอบที่ 2 แล้ว สามารถใช้รถโรตารี่ตีดินได้เลย เพราะฟางจะย่อยและอ่อนตัวแล้ว

 

ตารางเปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสีย ของการ หมักฟางข้าว และ การเผาฟางข้าว

 

ข้อดี และข้อเสียของการ หมักฟางข้าว
ข้อดี ข้อเสีย
–          ไม่ทำลายธาตุอาหารในดิน

–          เพิ่มอินทรียวัตถุ เติมธาตุอาหารให้ดินด้วยวิธีธรรมชาติ

–          เป็นการปรับโครงสร้างดิน ให้โปร่ง ยุ่ย

–          ลดการใช้ปุ๋ยเคมี จากการเกิดปุ๋ยธรรมชาติ

–          เพิ่มสิ่งมีชีวิตดีในดิน

 

–          เพิ่มต้นทุนการเตรียมนา จากค่าไถ และ ย่ำฟาง

–          เพิ่มระยะเวลาในการทำนา รอบต่อไป เนื่องจากต้องใช้เวลาหมักฟาง

–          เพิ่มต้นทุนการสูบน้ำเข้านาเพื่อย่อยฟาง

–          เพิ่มต้นทุนสารช่วยช่อยสลายฟาง

ข้อดี และข้อเสียของการ เผาฟางข้าว
ข้อดี ข้อเสีย
–          รวดเร็วในการกำจัดฟางข้าว

–          สามารถทำนาในรอบถัดไปได้อย่างรวดเร็ว

–          สร้างมลพิษทางอากาศ เช่น ฝุ่น PM 2.5

–          ทำลายธาตุอาหารในดิน

–          สูญเสีย สัตว์ที่ช่วยย่อยสลายอินทรีย์ในดิน

–          เปลืองปุ๋ยมากขึ้นเนื่องจากการเผาฟางจะทำลายธาตุอาหารในหน้าดิน และ ทำลายธาตุอาหารที่สะสมในตัวฟางข้าว

–          มีความอันตรายต่อพื้นที่ใกล้เคียง และผู้เผาฟาง อาจจะเกิดอุบัติเหตุ ไฟไหม้ ทำให้เกิดอันตรายต่อ ผู้คนและทรัพย์สิน

–          ผิดกฎหมาย หากก่อให้เกิดมลพิษ และผลเสียต่อสุขภาพผู้อื่น (พรบ.ป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550)

 

การคำนวณต้นทุนในการ เตรียมนาข้าว ด้วยวิธี หมักฟางข้าว

 

  1. ค่าย่ำนา / ตีนาข้าว 220-260 บาท ต่อไร่ (กรณี ย่ำนา 2 รอบ จะมีค่าใช้จ่าย 440-520 บาท/ ไร่ แต่กรณีย่ำ 3 รอบ จะมีค่าใช้จ่าย 600 – 700 บาท)
  2. ค่าสารช่วยย่อยสลายฟาง กรณีดินเทพ 1 ขวด /10 ไร่ (69 บาท/ไร่ กรณีอยากให้ย่อยสลายเร็วกว่าปกติ ใช้ดินเทพ 2 ขวด /10 ไร่ ต้นทุน 138 บาท ต่อไร่)
  3. ค่าฉีดพ่นสารช่วยย่อยสลายฟาง 0 บาท เนื่องจากดินเทพสามารถให้พร้อมกับการปล่อยน้ำเข้านา
  4. ค่าน้ำมันปล่อยน้ำเข้านา ขึ้นอยู่กับเครื่องสูบน้ำ ในบางพื้นที่สามารถปล่อยเข้าได้ด้วยวิธีธรรมชาติ (ระบบน้ำ ดี)

สรุป

  1. ค่าใช้จ่าย ในการหมักฟาง 500 – 669 บาท ต่อไร่
  2. ลดการใช้ปุ๋ยเคมี 893 บาท/ไร่ (ได้ปุ๋ยกลับมาจากฟางข้าว: ข้อมูลอ้างอิงโดย กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตร)

**** เท่ากับว่า การหมักฟางข้าว มีผลดี มากกว่าการ เผาฟางข้าว โดยลดต้นทุน การใช้ปุ๋ยเคมีในรอบการเพาะปลูกถัดไปได้ โดยมีข้อเสียเพียง ใช้เวลาในการเตรียมนาที่นานมากกว่า การเผา