ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว สำหรับชีวิตเกษตรกร ยิ่งเกษตรกรที่ปลูกข้าว หรืออาชีพ “ชาวนา” หลังสู้ฟ้าหน้าก้มลงดิน เพื่อให้ข้าวมีคุณภาพดีขายได้ราคา แต่ความเป็นจริงแล้วขึ้นอยู่กับดินเป็นหลัก หากเราปลูกข้าว หรือ พืชผลมาเป็นะยะเวลานาน วัฏจักรของดินย่อมเสื่อมเป็นธรรมดา เพราะได้รับผลกระทบจาก ปุ๋ยเคมี สารเคมี สารต่างๆ มานาน วันนี้ ไร่เทพ มีเคล็ดลับฉบับเร่งด่วน ในการช่วยฟืื้นฟู
การเลือกพันธุ์ข้าว
เลือกพันธุ์ข้าวต้านทานโรค พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ที่ทนต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ต้านทานโรคขอบใบแห้ง ทนความแล้ง ต้านทานโรคขอบใบแห้ง
การเตรียมดินก่อนปลูก
ใช้รถแทรกเตอร์ไถกลบฟางเดือนธันวาคม หรือปล่อยไว้ให้วัวควายแทะเล็ม พอถึงเดือนกุมภาพันธ์ และ มีนาคม เมื่อมีฝนพอให้ไถสะดวก จึงทำการปลูกพืชสดบำรุงดิน เช่น โสนอัฟริกัน ถั่วพร้า ถั่วพุ่ม โดยหว่านอัตรา 5 -10กิโลกรัมต่อไร่ ขึ้นอยู่กับขนาดเมล็ด เมื่อพืชเจริญเติบโตและสามารถให้ผลผลิต ให้ทำการเก็บผลผลิตไว้เป็นเมล็ดพันธุ์ต่อไป หรือหากไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก็ให้ไถกลบเมื่อพืชสดอยู่ในระยะออกดอก ราวเดือนพฤษภาคม การไถกลบพืชสดอาจถือเป็นการไถดะ
ชาวนาควรปลูกข้าวไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี หากเลี่ยงไม่ได้ให้ใช้อาหารเสริมพืชไร่เทพช่วยฟื้นฟูสภาพดิน
วิธีปลูก
-
- การปลูกแบบหว่าน ไถเตรียมดิน ปรับพื้นที่ให้สม่ำเสมอแล้วหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวอัตรา 15-20 กิโลกรัมต่อไร่ เสร็จแล้วจึงคราดกลบ
- การปลูกแบบปักดำ ไถแปรและคราดทำเทือก และปักดำระยะระหว่างแถว 20 เซนติเมตรและระยะระหว่างต้น 20 เซนติเมตร
การจัดการความอุดมสมบูรณ์ของดิน
ดินนาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนมากเป็นดินร่วนปนทราย ความอุดมสมบูรณ์ต่ำ มีอินทรียวัตถุในดินต่ำกว่าร้อยละ 1 มีปริมาณฟอสฟอรัสต่ำกว่า 10 มิลลิกรัมต่อดิน 1 กิโลกรัม มีปริมาณโพแทสเซียมต่ำกว่า 30 มิลลิกรัมต่อดิน 1 กิโลกรัม ดินมีความเป็นกรดจัด (pH 4.5 – 5.4) ดังนั้นการปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตสูงขึ้นจึงต้องมีการจัดการความอุดมสมบูรณ์ของดิน
- การไถกลบฟาง เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ การไถกลบฟางเพื่อเป็นการเพิ่มอินทรียวัตถุและป้องกันการเผาฟางในนา ปัจจุบัน (ปี 2549) น้ำมันแพงมาก (29 บาท/ลิตร) การไถกลบฟางอาจละเว้นได้แต่ห้ามเผาฟางและมีข้อดี คือ เป็นอาหารของวัว ควายที่นำออกไปเลี้ยงในทุ่งและประหยัดน้ำมัน
- การปลูกพืชบำรุงดิน พืชที่ปลูกบำรุงดินมักจะปลูกหลังจากเสร็จจากการเก็บเกี่ยว จนถึงเก็บข้าวขึ้นยุ้งฉางเสร็จแล้ว จึงทำการไถเพื่อปลูกพืชบำรุงดิน การปลูกในช่วงนี้อาศัยความชื้นที่เหลืออยู่ในดิน การเจริญเติบโตของพืชบำรุงดินไม่ค่อยดีเนื่องจากไม่มีฝน แห้งแล้ง การปลูกพืชบำรุงดินในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม หากปลูกในระยะนี้พืชสดบำรุงดินบางชนิดให้ผลผลิตสามารถเก็บเมล็ดไว้ปลูกฤดูต่อไป ถ้าปลูกเดือนเมษายน – พฤษภาคม พืชสดบำรุงดินเจริญเติบโตประมาณ 40-50 วัน จึงไถกลบเป็นปุ๋ยบำรุงดิน พืชบำรุงดินที่เจริญเติบโตในสภาพนาและให้ปริมาณมวลชีวภาพ เรียงจากมากไปหาน้อย คือโสนอัฟริกัน ถั่วพร้า ปอเทือง ถั่วพุ่ม ถั่วเขียว น้ำหนักสดของพืชควรได้มากกว่า 1 ตัน จึงจะทำให้ต้นข้าวที่ปลูกผลผลิตงาม
เคล็ดลับการใส่ปุ๋ย
- ใช้อาหารเสริมพืช ไร่เทพ ฉีดพ่น อัตราส่วน 1ซอง/ 3-5 ไร่)
- การใส่ปุ๋ยหมัก จากผลการวิจัยการใส่ปุ๋ยหมัก 500 – 1000 กิโลกรัมต่อไร่ ช่วยทำให้ดินดีและผลผลิตดีขึ้น แต่การใส่ปุ๋ยหมักในนาไม่เป็นการปฏิบัติที่ปกติของชาวนา หากเป็นการกระทำที่พิเศษ โดยมีหน่วยงานของรัฐไปส่งเสริมให้ทำ เมื่อสิ้นสุดโครงการของหน่วยงานที่ออกไปส่งเสริม การทำปุ๋ยหมักเพื่อใช้ในนาก็จะสิ้นสุด การทำปุ๋ยหมักต้องใช้ทุน วัสดุอุปกรณ์ และแรงงานค่อนข้างสูง ดังนั้น หากมีชาวนากลุ่มใด หรือ คนใดทำปุ๋ยหมักเพื่อใส่ในไร่นา ถือว่าเป็นชาวนาที่ขยัน และอดทน เพื่อทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของดินดีขึ้นอย่างแท้จริง
- ใส่ฟางข้าว ใบไม้ต่าง ๆ โปรยฟางข้าว ใบไม้ต่าง ๆ ในนาประมาณ 200-300 กิโลกรัมต่อไร่ การจัดการความอุดมสมบูรณ์ของดิน ไม่มีสูตรเฉพาะ ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณ ของวัสดุที่เกษตรกรมีอยู่ และความสามารถในการปฏิบัติแบบที่เหมาะสมกับตนเอง
การจัดการก่อนและหลังเก็บเกี่ยว
ก่อนการเก็บเกี่ยว ถ้ามีน้ำขังอยู่ในนาจะระบายน้ำออกให้แห้งพอดีในระยะเก็บเกี่ยว เพื่อความสะดวกในการ
เกี่ยว และรวงข้าวจะได้สุกแก่พร้อมกันวิธีเก็บเกี่ยว มีทั้งใช้แรงคนเกี่ยว และรถเกี่ยวนวด การใช้แรงงารนคนเก็บเกี่ยว จะตากฟ่อนข้าวไว้ในนา 3 – 4 วัน แล้วเก็บฟ่อนรวมไว้ตามคันนา ซึ่งการรวมฟ่อนก่อนนวดจะเก็บไว้อาจนานถึง 30–40 วัน เนื่องจากการเก็บเกี่ยวด้วยแรงงานคนต้องใช้เวลานานหลายรอจนกว่าจะเกี่ยวเสร็จทั้งหมดจึงจะทำการนวด การใช้รถนวดข้าวต้องเป่าทำความสะอาดเครื่องนวดก่อน ป้องกันการปนเปื้อนจากเมล็ดข้าวที่ค้างอยู่ในเครื่อง และแยกเมล็ดข้าวที่นวดก่อนออก 1 – 2 กระสอบ แล้วจึงเก็บเมล็ดข้าวเป็นข้าวอินทรีย์
การใช้รถเกี่ยวนวด จะเกี่ยวนวดข้าวอินทรีย์แยกออกประมาณ 3–4 กระสอบเพื่อล้างเครื่องไม่ให้เมล็ดข้าวอินทรีย์ปนเปื้อนจากเมล็ดข้าวที่ตกค้างอยู่ในเครื่อง จนแน่ใจว่าข้าวที่จะเก็บเป็นเมล็ดข้าวที่ผลิตโดยวิธีเกษตรอินทรีย์ จากนั้นนำเมล็ดข้าวไปตากให้แห้ง
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก กรมการข้าว