Tag Archives: พืชไร่

เชื้อราไมคอร์ไรซา ต่อแขนขาให้พืชยืดยาว

รู้หรือไม่ “ไมคอร์ไรซา” มันช่วยพืชได้เยอะมากเลย เช่นเพิ่มพื้นที่ในการดูดซึมน้ำและแร่ธาตุ โดยเฉพาะธาตุที่ดูดซึมยากๆ เช่นฟอสฟอรัส ดังนั้นก็จะทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยให้พืชทนต่อโรครากเน่าโคนเน่า แล้วก็ใช้ร่วมกับสารเคมีทางการเกษตรบางชนิดด้วยเพราะว่ามันมีความทนทาน

.

“ไมคอร์ไรซา” เป็นจุลินทรีย์ในดิน ประเภทเชื้อรา อาศัยอยู่บริเวณรากพืชและเจริญเข้าไปในรากโดยไม่ทำร้ายพืช โดยสิ่งมีชีวิตทั้งสองอยู่กันแบบพึงพาอาศัย ไมคอร์ไรซาช่วยดูดซึมสารอาหาร ส่วนพืชก็จะสังเคราะห์ด้วยแสงเพื่อสร้างแป้งและน้ำตาล ไปให้ไมคอร์ไรซ่าเจริญเติบโต

.

สามรถไปตามอ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับจุลินทรีย์ในดินอื่นๆ ได้

เช่น ไรโซเบียม

นอกจากนี้ เรายังรวมรวมงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตร ที่เกี่ยวข้องกับ ไมคอร์ไรซา

ไว้ดังต่อไปนี้

การจำแนกและคัดเลือกราไมคอร์ไรซาที่มีผลต่อการงอกของกล้วยไม้

การควบคุมโรคลำต้นเน่าของปาล์มน้ำมันโดยชีววิธี

การศึกษาชนิดราไมคอร์ไรซ่ากล้วยไม้ใกล้สูญพันธุ์และการใช้ประโยชน์

ปลูกถั่วเหลือง ไรโซเบียมเอาอยู่!

      มีการวิจัยหนึ่ง จากนักวิชาการโรคพืช งานจุลินทรีย์ดิน กองปฐพีวิทยา กรมวิชาการเกษตร เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2516 (เกือบ 50 ปีมาแล้ว) ที่จังหวัด ร้อยเอ็ด ขอนแก่น และนครราชสีมา ซึ่งผลการทดลองนั้นปรากฏว่า การใส่เชื้อไรโซเบียมให้กับถั่วเหลืองอย่างเดียวสามารถทำให้ผลผลิตสูงเท่าๆกัน กับการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนอย่างเดียว และการใช้ทั้งสองอย่างร่วมกันก็ไม่ได้มีการเพิ่มขึ้นของผลผลิตอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ในบางพื้นที่ การใช้ไรโซเบียมอย่างเดียวนั้นกลับได้ผลผลิตเยอะกว่าอีกด้วย!

ใครอยากอ่านงานวิจัยอายุ 50 ปีนี้ ตามกันไปได้ที่ : การเพิ่มผลผลิตถั่วเหลืองโดยการใช้เชื้อไรโซเบียมและปุ๋ยไนโตรเจน นอกจากนี้ยังมีบทความเรื่อง การปลูกถั่วเหลือฝักสดหรือถั่วแระญี่ปุ่น ให้ไปศึกษากันเพิ่มอีกด้วย

บทความนี้ ฤทธิรอนขอนำเสนอ การเพิ่มผลผลิตและปรับปรุงดินด้วยจุลินทรีย์ไรโซเบียมกันครับ

ไรโซเบียม คืออะไรและทำหน้าที่อะไร

ไรโซเบียมเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก หรือที่เรียกกันว่าจุลินทรีย์ในดิน มีความสามารถในการตรึงไนโตรเจนลงสู่พื้นดินและเข้าไปอยู่ร่วมกับพืชตระกูลถั่วบริเวณรากของมัน จึงมักถูกเรียกว่า “จุลินทรีย์ปมรากถั่ว”

ขอบคุณภาพจากกรมวิชาการเกษตร

การใส่ปุ๋ยไนโตรเจนในปริมาณที่สูงเกินไปนั้น อาจทำให้เกิดการสูญเสียไนโตรเจนอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเกิดจากการชะล้างของฝน หรือ การเปลี่ยนกลายเป็นก๊าซไนโตรเจน ลอยกลับสู่อากาศ 

นอกจากนี้ แท้จริงแล้วไรโซเบียมไม่มีความจำเป็นต้องใช้ไนโตรเจนและมันก็ยังคงสร้างปมรากได้ดีแม้ดินนั้นจะไม่ค่อยมีไนโตรเจนมากนัก แต่ที่สำคัญ คือมันทำหน้าที่เหมือนผู้จัดการส่วนตัวของพืชตระกูลถั่ว ทันทีที่ถั่วต้องการไนโตรเจน เช่น ระยะเริ่มติดฝัก ไรโซเบียมก็จะจัดการตรึงไนโตรเจนส่งไปยังเมล็ดโดยตรงทันที! ซึ่งต่างจากไนโตรเจนที่ได้จากปุ๋ย มันจะถูกส่งไป”เปลี่ยนรูปแบบ” ที่ใบก่อน แล้วจึงค่อยส่งมาที่เมล็ด ดังนั้น เมื่อถั่วเหลืองมีปมอยู่ที่ราก ไรโซเบียมก็จะทำหน้าที่ของมัน ทำให้เมล็ดสมบูรณ์และผลผลิตสูง (นักวิจัยยังบอกว่า การใส่ปุ๋ยในช่วงแรก จะทำให้พืชเขียวจริง แต่ก็ไม่ได้การรันตีในเรื่องของผลผลิต)

ด้วยข้อเท็จจริงข้างต้น จึงไม่แนะนำให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยไนโตรเจนกับการปลูกถั่ว แต่แนะนำให้ใช้เชื้อไรโซเบียมแทน

การปลููก และดูแลมันสำปะหลังแบบขั้นเทพ

การปลูกและการดูแลมันสำปะหลังแบบขั้นเทพ

การปรับปรุงดินให้เหมาะสมต่อการผลผลิตมันสำปะหลัง

หลักสำคัญก็คือการเพิ่มอินทรียวัตถุและธาตุอาหารให้กับดินเป็นการสร้างให้ดินมีความสามารถในการอุ้มน้ำได้ดี

เช่นการ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ หรือการฉีดผลิตภัณฑ์ไร่เทพ ลงดินเพื่อเพิ่มสารอาหารในดิน

 

การเลือกพันธุ์มันสำปะหลัง

หลักสำคัญก็คือ ดินที่ใช้ปลูกมันสำปะหลัง โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ดินร่วนเหนียวถือได้ว่าดินดี ควรปลูกพันธุ์ระยอง 5 และ ระยอง 72 และดินร่วนทรายถือได้ว่าเป็นดินปานกลาง ควรปลูกพันธุ์ เกษตรศาสตร์ 50 ระยอง 90 ห้วยบ่ง 60 ระยอง 9 และพันธุ์ยอดฮิต แขกดำ ส่วนพันธุ์ระยอง 7 เหมาะทั้งดินร่วนเหนียวและดินร่วนทรำยที่มีความชื้นของดินดีตลอดช่วงของการเจริบเติบโต แต่ไม่เหมาะกับสภาพดินที่แห้งแล้ง

การเตรียมดิน

ก่อนปลูกควรไถและพรวนอย่ำงน้อย 2-3 ครั้ง ลึก 20-30 เซนติเมตร เพื่อกลบเศษซากพืชจากฤดูก่อน และ

ทำลำยวัชพืชต่ำง ๆ ให้ลดจำนวนลง การไถให้ใช้ผาล 3 ติดทายรถแทรกเตอร์ 1 ครั้ง ตามด้วยผาล 7 อีก 1 ครั้ง จะได้

ผลผลิตมันสำปะหลังสูงสุด ถ้าพื้นที่มีความลาดชันต้องไถพรวนตามแนวขวาง เพื่อป้องกันการชะล้ำงของดิน และถ้ำดิน

ระบายน้ำไม่ดีต้องยกร่องปลูก ถ้าเป็นดินร่วนเหนียวควรไถแปรครั้งที่สองเพื่อย่อยดินด้วยผาล 7 และตามด้วยการยกร่องพร้อมปลูก ส่วนดินทรายไม่จำเป็นต้องไถแปรครั้งที่สองด้วยผาล 7 สามารถยกร่องพร้อมปลูกได้เลย

 

การเตรียมท่อนพันธุ์

การปลูกมันสำปะหลังนิยมใช้ท่อนพันธุ์ โดยตัดลำต้นให้เป็นท่อนยาว 15-20 ซม. เลือกใช้ต้นพันธุ์ที่แก่มีอายุตั้งแต่ 10เดือนขึ้นไป แช่ท่อนพันธุ์ในอาหารเสริมพืชไร่เทพ โดยผสม 1 ซอง ต่อน้ำ 100 ลิตร โดยแช่ประมาณ 3-5 ชั่วโมงหรือ 1คืนแล้วนำไปปลูกในแปลง

การปลูก

หลักสำคัญก็คือ ควรเลือกพันธุ์ที่ใช้ปลูกที่มีอายุ 10-12 เดือน จะให้ความงอกดีที่สุด เลือกต้นพันธุ์ที่แข็งแรง มีตำถี่ ขนาดโตพอสมควร ต้องตัดท่อนปลูกด้วยมีดที่คม เพื่อมิให้ท่อนปลูกช้ำ ยาวไม่ต่ำกว่า 20 ซม. ปลูกปักตรงให้ลึก 2 ใน 3 ของ

ความยาวท่อนปลูก ในดินร่วนเหนียว ควรใช้ระยะแถวกว้าง 1.20 เมตร ระยะปลูกตั้งแต่ 0.50-1.00 ม. และในดินร่วนทราย ควรใช้ระยะแถวแคบ 0.80 เมตร ระยะปลูกตั้งแต่ 0.50-0.80 เมตร การปลูกมันสำปะหลังทำได้โดยนำท่อนพันธุ์ที่

เตรียมไว้ ควรปักลงในดินให้ลึกประมาณ 2/3 ของท่อนพันธุ์ กำรดูแลรักษาระวังอย่าปักส่วนยอดลงดินเพราะตาจะไม่งอก  การปักตรง 90 องศา และปักเฉียง 45 องศากับพื้นดินให้ผลผลิตไม่แตกต่างกัน มันสำปะหลังจะงอกเร็ว และสะดวกต่อ

การกำจัดวัชพืช, การปลูกซ่อม และลงหัวด้านเดียวเป็นกลุ่มง่ายต่อกำรเก็บเกี่ยวให้ผลผลิตสูงกว่าการปลูกแบบฝัง 10-15% การปลูกที่ได้ผลผลิตสูงก็คือ กำรปักตรง 90 องศา และเทคนิคการเฉือนตาข้างของท่อนปลูกออกเพื่อให้เกิดหัว

เพิ่มขึ้นอย่ากระทำโดยเด็ดขาด เพราะรากฝอยที่เกิดจากรอยแผลที่โคนของท่อนปลูกก็มีมากเพียงพอที่จะพัฒนาเป็นหัวสะสมอาหารได้แล้ว และการเฉือนอาจทำให้เกิดเชื้อราที่ท่อนพันธุ์ได้

การใส่ปุ๋ย

มันสำปะหลังเป็นพืชที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงเมื่อเทียบกับพืชไร่อื่น ๆ ดังนั้นจึงต้องการธาตุอาหารจากดินเป็นจำนวนมาก เมื่อมีการปลูกมันสำปะหลังติดต่อกันหลายปี ธาตุอาหารในดินย่อมลดลงตามลำดับ ส่งผลให้ผลผลิตของมันสำปะหลังลดลง

ตำมไปด้วย ดังนั้นกำรปลูกมันสำปะหลังจึงจำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเพื่อเพิ่มผลผลิตและรักษาระดับความอุดมสมบูรณ์ลดลงตามไปด้วย ดังนั้นควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์ไซโต ในอัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้ง ๆ ละเท่า ๆ กัน ในครั้งแรกให้ใส่หลังจาก

ปลูกมันสำปะหลังแล้ว 1 เดือน ครั้งที่ 2 ใส่เมื่อมันสำปะหลังมีอายุได้ 3 เดือน นอกจากนี้ควรเสริมธาตุอาหารให้พืชด้วยการฉีดพ่นอาหารเสริมไร่เทพทางใบ ในอัตราส่วน ไร่เทพ 1ซอง ต่อน้ำ 100 ลิตร ฉีดพ่นทุก 10-15 วัน เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของมันสำปะหลังได้ดีขึ้น (ข้อแนะนำก่อนฉีดพ่นอาหารเสริมไร่เทพทางใบ ควรกำจัดวัชพืชก่อน) สามารถฉีดได้เรื่อยจะครบอายุการเก็บเกี่ยว

การควบคุมวัชพืช

ในระยะแรกของการปลูกมันสำปะหลังจะมีวัชพืชขึ้นรบกวนมาก และระยะเวลาวิกฤตในการกำจัดวัชพืชจะอยู่ที่ 2-3 เดือนแรก เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่มันสำปะหลังกำลังลงหัวและจะกำจัดวัชพืชไม่ทัน ให้ใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชในการกำจัด

วัชพืชโดยการฉีดพ่นให้ทั่วแปลง หลังจำก 4 เดือน ไปแล้วมันสำปะหลังจะไม่มีการสร้างหัวเพิ่ม แต่จะขยายขนาดหัวให้ใหญ่ขึ้น ถ้ามีวัชพืชขึ้นรบกวนในช่วงนี้มากจะทำให้ผลผลิตลดลง การเริ่มกำจัดวัชพืชครั้งแรกต้องรีบกระท ำ อาจเริ่มที่ 15

วันหลังจากปลูก ยิ่งล่ำช้ำออกไปผลผลิตจะยิ่งลดลง ควรกำจัดวัชพืชครั้งแรกให้เสร็จภายใน 1 เดือน หลังจากปลูกและอาจต้องกำจัดวัชพืชอีก 2-3 ครั้ง จนกว่าพุ่มของใบมันสำปะหลังจะชิดกัน หรืออีกวิธีหนึ่งที่สามารถป้องกันวัชพืชได้คือการ

ฉีดสารเคมีคุมเมล็ดวัชพืชหลังจากการปลูกมันสำปะหลัง 1-2 วัน เป็นการคลุมดินป้องกันวัชพืชได้ในช่วงแรก ๆ หลังจากใส่ปุ๋ยครบและกำจัดวัชพืชได้ดังกล่าวแล้วก็เพียงแต่รอครบเวลา 12 เดือน หลังปลูกก็จะได้ผลผลิตมันสำปะหลังไม่ต่ำ

กว่า 7-10 ตันต่อไร่แน่นอน

 

รีวิวไร่เทพ ใช้จริงใช้ดีต้องมีโชว์!!! มันสำปะหลัง

รีวิวไร่เทพ ใช้จริงใช้ดีต้องมีโชว์!!!
🌳เกษตรกรไร่มันสำปะหลัง ทั่วไทย ไร่ไหนๆ ก็ใชไร่เทพ เพราะใช้ไร่เทพแล้ว ลำต้นแข็งแรง หัวใหญ่ ค่าแป้งสูงถึง 28-30 % ทุกๆแปลง ทุกพื้นที่ทั่วไทย ใช้ไร่เทพแล้วได้ผลิตดีแบบนี้
บอกคำเดียวว่า ใช้แล้ว ใช้ซ้ำ ไม่เปลี่ยนใจ (ไม่ต้องเชื่อเรา ดูเอาจากรีวิว ภาพจริง ภาพสดไม่มีตัดต่อ)
🌳เคล็ดลับการใช้ ไร่เทพ ในไร่มันสำปะหลัง
*ช่วงเตรียมท่อนพันธุ์ 1 ซอง ต่อน้ำ 100 ลิตร แช่ท่อนพันธุ์
ทั้งไว้ 3 ชั่วโมง ก็พร้อมนำลงปลูกในแปลง
*ช่วงต้นกล้า (พืชอ่อน ใบเลี้ยงยังน้อย ) 1 ซอง ต่อน้ำ 100 ลิตร
*ช่วงเจริญเติบโต (ผ่านระยะต้นอ่อน ต้นกล้ามาแล้ว) 1 ซอง ต่อน้ำ 100 ลิตร
*ฉีดพ่นทางใบทุก 15 วัน

หอมแดง เคล็ด (ไม่) ลับ สรรพคุณทางยา

🧅*ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ไหนจะมีโรคระบาดอีก ทำให้ต้องดูแลสุขภาพกันมากขึ้น เช่น ดื่มน้ำอุ่น พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หรือหาอาหารเสริม วิตามินมาทาน เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ไม่มีไข้ แต่ก็มีวิธีที่ง่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายคือ การรับประทาน พืชผักสวนครัวพื้นบ้านที่สามารถได้ง่ายเช่น “หอมแดง”
*ซึ่งพบว่าใน🧅“หอมแดง”🧅 อุดมด้วยวิตามิน และคุณค่าทางอาหารครบถ้วน แถมยังเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย บำรุงสมอง ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ที่สำคัญ มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ไม่ขึ้นลงวูบวาบ
*ด้วยความหลากหลายของตัวยาใน “หอมแดง” ส่งผลให้มีสรรพคุณทางยาช่วยบรรเทาอาการของไข้หวัด แก้หวัดคัดจมูก และช่วยลดน้ำมูก โดยวิธีใช้ง่าย คือนำหอมแดงหัวเล็กปอกเปลือกทุบพอแตก ห่อผ้าบางๆ วางไว้ตรงหัวนอน เพื่อให้กลิ่นหัวหอมเข้าจมูก ช่วยทำให้จมูกโล่ง สามารถบรรทาอาการหวัดได้
***ข้อมูลจากสถาบันอภัยภูเบศร
*ทั้งนี้การปลูก 🧅หอมแดง🧅 ก็ปลูกง่าย คนทั่วไปสามารถปลูกไว้ทานเองได้ ปลูกในแปลงหลังบ้าน หรือในกระถาง แค่มีหัวหอมแดงที่ซื้อมาจากตามตลาด นำมาปักลงดิน รดน้ำทุกวัน ประมาณ 30 วัน แค่นี้ก็มีหอมแดงไว้ทานเองแล้ว
*แต่ถ้าการปลูกเพื่อไว้ขาย สำหรับเกษตรกรชาวนาทางพื้นที่ ที่พอมีน้ำในการเพาะปลูก หลังเมื่อเก็บเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จ 7 วัน ก็ไถดะ 1 ครั้ง ได้หว่านปุ๋ยคอกแห้งลงไป อัตรา 1 ตัน ต่อไร่ แล้วไถแปร 2 ครั้ง จากนั้นนำน้ำหมักชีวภาพ ใส่ลงไปผสมกันนำไปฉีดพ่นแล้วไถพรวนพร้อมกับยกร่องแปลงปลูก
*หลังจากปลูกหอมแดง 10 วัน หรือช่วงต้นกล้า นำ *** “ไร่เทพ 1 ซองผสมกับน้ำ 100 ลิตร ใช้ฉีดได้ 3-5ไร่”
*** หลังจากนั้น ก็สามารฉีด ไร่เทพได้ทุก10-15 วัน ในอัตราส่วนเท่าเดิม พร้อมกับใสปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมีตามชอบได้เลย แต่มีเคล็ดลับ คือเกษตรสามารถใส่ปุ๋ยในปริมาณน้อยลงได้หรือจะไม่ใส่ก็ได้นะครับ ดูแลจนต้นหอมแดงเจริญเติบโตมีอายุ 80 วันขึ้นไป ก็เริ่มแก่ ได้เริ่มทยอยเก็บเกี่ยวพร้อมขายได้แล้ว

รีวิวไร่เทพ ใช้จริงใช้ดีต้องมีโชว์! มันสำปะหลัง เกษตรกรตัวน้อย

รีวิวไร่เทพ ใช้จริงใช้ดีต้องมีโชว์!!!
ไร่มันสำปะหลัง ที่ลพบุรี จากฝีมือเกษตรกรตัวน้อย น้องการ์ตูน ที่ลงมือช่วยพ่อแม่ ทำมันสำปะหลัง ฉีดไร่เทพด้วยตัวเอง
พ่อแม่น้องการ์ตูน : ครอบครัวทำไร่มันสำปะหลังมานานได้ผลิตพอประมาณ แต่หลังจากใช้ไร่เทพ เพียงไม่กี่ครั้ง ไม่ใช่แค่ผลผลิตเพิ่มขึ้น แต่ค่าแป้งก็เพิ่มขึ้นวัดได้ถึง 29-30 % และที่สำคัญสินค้าไร่เทพปลอดสารพิษ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ เด็กๆ อย่างน้องการ์ตูนก็ฉีดได้ไม่เป็นอันตราย ใช้ไร่เทพแล้วได้ผลิตดีแบบนี้ บอกคำเดียวว่าใช้แล้ว ใช้ซ้ำ ไม่เปลี่ยนใจ
(ไม่ต้องเชื่อเรา ดูเอาจากรีวิว ภาพจริง ภาพสดไม่มีตัดต่อ)
ไร่เทพ คุณภาพขั้นเทพ
สอบถามข้อมูล-เทคนิคการปลูกพืชชนิดต่างๆ เรามีทีมส่งเสริมการขายที่เชี่ยวชาญ พร้อมตอบคำถามเกษตรกรตลอดเวล

ปลูกกล้วย สร้างรายได้ ขั้นเทพ

“กล้วย” อยู่คู่กับชีวิตของคนไทย และถือเป็นพืช Continue reading

คืนชีวิตให้แก่ดินด้วยการปลูก…ปอเทือง

หากพี่ๆ ที่ปลูกพืชไร่ เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย หากปลูกมานาน ดินที่เราใช้ย่อมเสื่อมโทรมเป็นธรรมดา ทั้งจากปุ๋ยเคมี และสารเคมีต่าง ๆ วันนี้ไร่เทพ ขอชวนเพื่อนๆ พี่ๆ มาใช้ประโยชน์จากปอเทือง ซึ่งเป็นพืชตระกูลถั่ว ให้ฟื้นฟูสภาพดิน สำหรับรอบปลูกต่อไปกันนะครับ ปอเทืองเจริญเติบโตได้ดีในสภาพพื้นที่ดอน ปลูกให้เป็นปุ๋ยพืชสด หากไถกลบจะมีประโยชน์เพิ่มปริมาณธาตุไนโตรเจนในปริมาณสูง

การปลูกปอเทืองในนาข้าว มี 2 วิธี

  • การปลูกโดยการเตรียมดิน

ทำได้โดยใช้รถไถขณะดินมีความชื้นอยู่ แล้วหว่านเมล็ดปอเทือง จะคราดกลบหรือไม่ก็ได้ ถ้าคราดกลบจะงอกได้สม่ำเสมอและเจริญเติบโตดี หรือ ปลูกโรยเป็นแถว ระหว่างแถว 80 – 100 ซม. หรือปลูกเป็นหลุม ใช้ระยะปลูก 50×100 หลุม ๆ ละ 1–3 ต้น

  • ปลูกโดยไม่ต้องเตรียมดิน

ซึ่งทำโดยก่อนการเก็บเกี่ยวข้าว ใช้เมล็ดพันธุ์ปอเทืองหว่าน 1–2 วัน จึงใช้รถเก็บเกี่ยวข้าว วิธีนี้จะสูญเสียเมล็ดพันธุ์มากจากการกลบของฟางข้าว หรือหลังการเก็บเกี่ยวข้าวใช้เมล็ดปอเทืองหว่านตามร่องรถเกี่ยวข้าวแล้วกระจายฟางข้าวให้ทั่วแปลง หรือจะเก็บฟางข้าวไว้เลี้ยงสัตว์ก็ได้ วิธีนี้จะได้ใช้พื้นที่มากขึ้น

  • อัตราเมล็ดที่ใช้ปลูก :

การปลูกแบบหว่านเพื่อไถกลบใช้เมล็ดประมาณ 3–5 กิโลกรัม/ไร่ ปลูกเป็นหลุมใช้เมล็ด 2–4 กิโลกรัม/ไร่

  • การดูแลรักษา :

หลังการหว่านเมล็ดพันธุ์ปอเทืองแล้วประมาณ 3–5 วัน จะงอกโดยอาศัยความชื้นที่มีอยู่ในดิน ไม่ต้องให้น้ำวัชพืชจะทำการถอนเพื่อจัดระยะปลูกเมื่ออายุ 2 – 3 สัปดาห์ ต้องพรวนดินกลบโค่นและกำจัดวัชพืช ใช้ไร่เทพ 1 ซอง + ปุ๋ยอินทรีย์ 1/2ลูก ต่อไร่ พ่นยากำจัดเชื้อรา และแมลงศัตรูพืชเมื่ออายุ 50–60 วัน ดอกเริ่มบานจากข้างล่างก่อน หลังดอกร่วงโรยจะติดฝักจากข้างล่างก่อนเช่นเดียวกัน ฝักจะแก่เก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ 120–130 วัน

ขอขอบคุณ : กองวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว

ภาพประกอบ : Freepik


ข้าวญี่ปุ่นแบบอินทรีย์..ขายได้ราคาดีกว่า

คนส่วนใหญ่อาจไม่ทราบว่าเมืองไทยปลูกข้าวญี่ปุ่น Continue reading