Tag Archives: ไร่เทพ

คำเตือน! หนาว ร้อน แล้ง …เตรียมพร้อมรับมือ

การปลูกข้าวหลังน้ำลดเป็นช่วงปลายฤดูฝนและฤดูหนาว จะต้องพิจารณาเรื่องอากาศหนาวด้วย เพราะหากข้าวกระทบต่ออากาศหนาวเย็น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าว โดยเฉพาะหากอุณหภูมิลดลงถึง 16 °C ในช่วงที่ข้าวออกรวงจะทำให้เกิดปัญหาและทำให้ผลผลิตของข้าวอาจจะลดลงได้ โดยปัญหาที่มากับอากาศหนาวคือจะทำให้รวงโผล่ไม่พ้นกาบใบ ปลายรวงในส่วนที่เหนือกาบใบธงจะตั้ง และไม่โน้มรวง ทำให้เมล็ดจะลีบบางเมล็ดจนถึงเกือบทั้งหมดรวง สาเหตุที่เมล็ดลีบเพราะข้าวไม่ผสมเกสร และอุณหภูมิลดลงมากและต่อเนื่องจะทำให้ระบบการเจริญเติบโตของข้าวหยุดชะงัก กระบวนการในเซลล์พืชจะทำงานผิดปกติและรากจะไม่ดูดซึมธาตุอาหาร หรือที่เรียกว่า ข้าวไม่กินปุ๋ย เมื่อข้าวออกดอกเกสรจะผสมไม่ติดหรือเมล็ดเป็นหมัน ผลผลิตต่ำมากจนถึงไม่ได้ผลผลิตเลย

แนะนำสำหรับการปลูกข้าวหลังน้ำลด

  1. การวิเคราะห์ดิน ควรมีการวิเคราะห์ตัวอย่างดินในนาก่อนปลูก เพราะพื้นที่นาที่ถูกน้ำท่วมอาจมีความอุดมสมบูรณ์ของธาตุอาหารทั้งที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง การวิเคราะห์ดินจะสามารถทราบความต้องการปุ๋ยที่แท้จริงของข้าวในแปลงนั้นๆ
  2. พันธุ์ข้าว ต้องใช้พันธุ์ข้าวชนิดไม่ไวต่อช่วงแสง อายุเก็บเกี่ยวสั้นและทนทานต่อสภาพอากาศหนาวเย็นได้ดี

3.วันปลูก ช่วงเวลาที่เหมาะสมควรหลีกเลี่ยงวันปลูกที่ระยะข้าวตั้งท้องถึงออกดอกไม่ให้ได้รับผลกระทบต่ออาการหนาวเย็น จากข้อมูลอุณหภูมิย้อนหลังสามารถเริ่มปลูกได้ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป

  1. การเตรียมดิน การเตรียมดินสำหรับปลูกข้าวหลังน้ำลดในพื้นที่นาน้ำท่วม ใช้วิธีการเตรียมดินสำหรับปลูกข้าว โดยทั่วไป เมื่อน้ำลดจนสามารถที่จะเตรียมดินได้แล้วสามารถเตรียมดินปลูกเหมือนการเตรียมดินตามฤดูกาลปกติ โดยใช้ดินเทพเพื่อปรับสภาพโครงสร้างดินให้เหมาะสมแก่การเพาะปลูก
  2. การปลูกข้าวแบบหว่านน้ำตม หลังน้ำลดควรใช้วิธีหว่านน้ำตม เพราะพันธุ์ข้าวที่ปลูกส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์ข้าวที่มีอายุเก็บเกี่ยวสั้น
  3. การปลูกแบบเป็นยกสลับแห้ง สามารถใช้เป็นแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยยังคงรักษาเสถียรภาพผลผลิตข้าวได้ดี และเป็นวิธีการใช้น้ำแบบประหยัด
  4. การใช้ปัจจัยการผลิต
    7.1 หมั่นดูแลตรวจสอบ ความผิดปกติของต้นข้าวและให้งดการใส่ปุ๋ยในช่วงอากาศหนาวเย็นเนื่องจากข้าวดูดซึมธาตุอาหารได้น้อย
    7.2 หากจะใส่ปุ๋ย ควรเน้นปุ๋ยในกลุ่มฟอตเฟตจะช่วยลดผลกระทบจากอุณหภูมิต่ำได้ เพราะธาตุฟอฟอรัส (P) ช่วยในการสังเคราะห์แสงและช่วยให้ข้าวทนทานต่ออากาศเย็น
    7.3 หากสภาพอากาศหนาวต่อเนื่อง ข้าวมีการเจิญเติบโตไม่ดีอาจส่งผลกระทบต่อการออกรวงและ ผลผลิตควรเพิ่มประสิทธิภาพโดยการฉีดพ่นซิงค์หรือสังกะสี (Zn) เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการสร้างฮอร์โมน NAA เพื่อกระตุ้นให้ข้าวออกรวง ลดการหลุดร่วงของดอกและผล และยังมีส่วนช่วยในกระบวนการสังคราะห์แสง ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีอยู่ในปุ๋ยโล่เขียว ไร่เทพ และไร่เทพโกลด์
    7.4 ข้าวที่ปลูกในช่วงอากาศหนาวเย็นมักมีโรคที่เกิดจากเชื้อราเข้าทำลาย เช่น โรคใบจุดสีน้ำตาล และโรคเมล็ดด่าง ควรใช้วิธีป้องกันกำจัดที่มีประสิทธิภาพ เช่น การลดใส่ปุ๋ยและฉีดพ่นสารเคมี
    7.6 เมื่ออุณหภูมิสูงเกิน 20 °C ให้ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบเพื่อเร่งฟื้นฟูต้น
  1. การปฏิบัติดูแลรักษา การปฏิบัติดูแลรักษาข้าวที่ปลูกหลังน้ำลด สามารถปฏิบัติดูแลรักษา เหมือนการปลูกข้าวพันธุ์ไม่ไวต่อช่วงแสงในนาชลประทาน ในการป้องกันกำจัดโรค แมลง ศัตรูข้าว วัชพืช ตามความจำเป็น

ผ่านวิกฤตภัยแล้ง..ด้วยไร่เทพ

ลุงพงษ์ นิลพัฒน์  เป็นเกษตรกรผู้เชี่ยวชาญในการปลูกข้าวเป็นอย่างมาก มีแปลงนามากกว่า 100 ไร่ ทำนามาตลอดชีวิต  อาศัยอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลุงพงษ์ เล่าว่า หลังจากหว่านข้าวไปเจอวิกฤตภัยแล้ง

ถึงขนาดที่ว่าน้ำในคลองก็ไม่มีให้วิดมาใช้ ลุงเลยตัดสินใจฉีดพ่นไร่เทพเพิ่มอีก 2 รอบ เพื่อให้ไร่เทพไปช่วยเพิ่มธาตุอาหารให้พืช ส่งผลให้พืชสามารถเจริญเติบโตต่อได้  และไร่เทพนอกจากจะช่วยให้พืชสามารถเติบโตได้ในสภาวะที่ไม่ปกติแล้ว ยังช่วยทำให้ดินมีความอุ้มน้ำ ร่วนซุยไม่แข็งกระด้างอีกด้วย ในขณะที่แปลงนาข้างๆ ต้นข้าวล้มตายเกิดความเสียหายอย่างมาก แต่แปลงนาลุงได้ผลผลิตที่มีน้ำหนักดีนำไปขายโรงสีได้ราคาดีด้วย

เคล็ดลับขั้นเทพ .. นาลุงจะมีนกเยอะมากมากินข้าวเปลือกตอนหว่านข้าวปลูกข้าว ดังนั้นลุงใช้วิธีการหว่านเผื่อให้นกด้วยกล่าวคือ หว่านข้าวในจำนวนที่มากขึ้นถึงแม้จะมีนกกินข้าวไปก็จะยังเหลือข้าวที่สามารถเจริญเติบโตไปเป็นต้นข้าวได้ ทำให้ไม่มีปัญหานกกินข้าวหมด

ไร่เทพ 1 ซอง ผสมน้ำได้ 100-200 ลิตร ฉีดพ่นได้ 3-5 ไร่

จบปัญหา..พืชเครียด ด้วยผลิตภัณฑ์ไร่เทพ

หลายเหตุปัจจัยที่ทำให้พืชเกิดความเครียด หันมาใส่ใจพืชของเรากันเถอะ

1.ความเครียดของพืชเกิดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม พืชจะต้องปรับตัวให้อยู่ได้ ภายใต้สภาวะที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะข้าวที่เป็นพืชอ่อนไหวและอ่อนแอต่อสภาวะที่ไม่เหมาะสมต่ออากาศที่แปรปรวนในปัจจุบัน  ซึ่งสภาวะอุณหภูมิที่ต่ำจะมีผลกระทบต่อทุกระยะการเจริญเติบโตของต้นข้าว ส่งผลให้ต้นข้าวชะงักการเจริญเติบโต ใบข้าวจะซีดเหลือง ไปจนถึงกลายเป็นสีน้ำตาลไหม้

2.ความเครียดของพืชเกิดจากปัญหาของดิน ดินที่เค็มหรือดินเปรี้ยว ดินที่มีกำมะถันสะสมมาก ส่งผลให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ใบผิดรูปไม่สมบูรณ์ ทำให้การสังเคราะห์แสงลดลง

3.ความเครียดของพืชเกิดจากการขาดน้ำหรือน้ำมาก ซึ่งพืชจะใช้น้ำในการเจริญเติบโต หากพืชได้รับน้ำมากเกินไปจะทำให้รากเน่า และหากพืชได้รับน้ำน้อยเกินไปจะทำให้ดินแข็งทำให้รากพืชไม่สามารถหาธาตุอาหารในการเจริญเติบโตได้

4.ความเครียดของพืชเกิดจากพืชขาดธาตุอาหาร ดินมีธาตุอาหารน้อยไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต ส่งผลให้พืชไม่โต มีขนาดเล็กไม่สมบูรณ์

5.ความเครียดของพืชเกิดจากสารพิษ ส่งผลให้พืชใบเล็กแคระแกร็น เหี่ยวเฉา หรือร้ายที่สุดพืชอาจจะตายได้

6.ความเครียดของพืชเกิดจากศัตรูพืช ซึ่งหากมีศัตรูพืชเข้าทำลายพืช จะส่งผลให้ผลผลิตลดลง

 

#ไร่เทพ #ดินเทพ #โล่เขียว #เกษตรกร #ข้าว #ชาวนา #พืช #พืชเครียด

ข้าวจมน้ำ 7 วัน แต่ข้าวไม่ตาย

เตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ .. นาข้าวของนายสุชาติ กิ่งนอก ชาวนาบ้านถนนถั่ว หมู่ที่ 10 ตำบลใหม่ อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ปลูกข้าวพันธุ์ หอมมะลิ 105 เป็นนาข้าวพื้นที่รับน้ำ โดยพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ต่ำ น้ำจะไหลมารวมกันที่นี่

ที่ผ่านมาฝนตกอย่างต่อเนื่องนายสุชาติจึงเตรียมรับมือกับน้ำที่มีปริมาณมาก ด้วยการฉีดพ่นผลิตภัณฑ์ตรา ไร่เทพ โดยฉีดพ่นก่อนน้ำจะมาถึงประมาณ 1 สัปดาห์ พอน้ำเข้าท่วมพื้นที่นาทำให้ต้นข้าวที่กำลังโตถูกน้ำท่วมจนเกือบมิดปลายยอดใบ ซึ่งมวลน้ำไม่เพียงแค่ไหลผ่านนาไป แต่ต้นข้าวในนาต้องแช่อยู่ในน้ำยาวนานเป็นสัปดาห์ ในขณะที่แปลงนาข้างๆต้นข้าวเกิดความเสียหายอย่างมาก ในทางกลับกันแปลงนาของนายสุชาติต้นข้าวสามารถเจริญเติบโตได้และให้ผลผลิตได้เหมือนเดิม

ไร่เทพ จะช่วยทำให้ต้นข้าวมีความมีความเสถียรในเซลล์และระบบรากที่ดี ซึ่งจะสังเกตได้ว่ารากจะมีจำนวนมาก ในขณะที่เกิดน้ำท่วมต้นข้าวมีรากบางส่วนที่เสียหายไป แต่เนื่องด้วยรากที่มีจำนวนมากนั้นจึงจะยังมีรากบางส่วนที่ไม่เกิดความเสียหายยังคงสามารถเลี้ยงต้นข้าวให้เจริญเติบโตต่อไปได้จนให้ผลผลิตได้ แต่หากว่าต้นข้าวที่มีรากน้อยถ้าน้ำท่วมรากจะเกิดการเสียหายทั้งหมดส่งผลให้พืชไม่ฟื้นตัวหรืออาจจะตายในที่สุดเพราะรากเน่าเสีย

จ่ายแพงไปทำไม??

ของใช้ดีไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไป อยากให้เกษตรกรได้ใช้ของดีที่มีราคาไม่แพง ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ ด้วยผลิตภัณฑ์ ตราไร่เทพ ที่เมื่อวิเคราะห์ราคากับปริมาณที่ใช้ จะเห็นได้ว่า คุ้มเกินคุ้ม เพราะราคาที่จ่ายไปกับผลลัพธ์ที่ได้กลับมารับประกันได้เลย การันตีด้วยยอดลูกค้าที่อยู่กับเรายาวนานกว่า 10 ปี

หากท่านกำลังเจอปัญหาพืชเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น เชื้อรา ใบจุด ใบเหลือง พืชขาดธาตุอาหาร ดินเสีย ดินเค็ม ดินแข็ง ไม่เหมาะสมต่อการเพราะปลูก รวมถึงปัญหาที่ได้ผลผลิตน้อย ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ปัญหาเกี่ยวกับการเกษตรเหล่านี้จะหมดไป หากเกษตรกรหันมาให้ผลิตภัณฑ์ของเรา

ไร่เทพ อาหารเสริมพืช จะช่วยให้พืชโตเร็ว สมบูรณ์ แข็งแรง เพิ่มผลผลิต ลูกดก เปอร์เซ็นต์แป้งสูง น้ำหนักดี มีคุณภาพดี

โล่เขียว จะช่วยให้พืชเขียวทน เขียวนาน ต้านทานโรคและแมลง และช่วยให้พืชทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม

ดินเทพ เป็นอาหารจุลินทรีย์ที่ดีในดิน ทำให้ดินฟู ร่วนซุย ไร้สารตกค้าง ช่วยให้ดินเหมาะสมแก่การเพาะปลูก และยังสามารถใช้แทนสารจับใบได้ ช่วยให้สารแผ่กระจายทั่วใบและพืชนำไปใช้ได้เลย

 

ราคาไม่แพง .. หากต้องการผลผลิตเพิ่ม ต้องเริ่มที่ไร่เทพ

ไร่เทพ 1 ซอง ฉีดพ่นได้ 3-5 ไร่

โล่เขียว 1 ขวด (1000ml.) ฉีดพ่นได้ 15 ไร่

ดินเทพ 1 ขวด (500ml.) ฉีดพ่นได้ 12 ไร่

 

จบปัญหา…ข้าวโพดฟันหลอ!!

ปัญหาข้าวโพดฟันหลอ โดยทั่วไปแล้วสาเหตุเกิดจาก การผสมเกสรไม่สมบูรณ์ ทำให้การติดเมล็ดของข้าวโพดผิดปกติ หรือเกิดจากสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสมร้อนแล้งจนเกินไปทำให้ไหม้แห้ง หรือการได้รับธาตุอาหารไม่เพียงพอ ขาดน้ำ และอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือเกิดจากแมลงศัตรูที่ลงทำลายในระยะข้าวโพดออกดอก ได้แก่ หนอนเจาะฝักข้าวโพด หนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด เพลี้ยอ่อน และเพลี้ยไฟข้าวโพด

ไร่เทพแนะนำการป้องกันกำจัด โดยให้ใช้ผลิตภัณฑ์ ตราไร่เทพ ฉีดพ่นทางใบ ตั้งแต่ 15 วันหลังปลูก อัตราส่วนดังนี้
-ไร่เทพ 1 ซอง ต่อน้ำ 100 ลิตร
-โล่เขียว 100 ซีซี ต่อน้ำ 100 ลิตร
-ดินเทพ 10 ซีซี ต่อน้ำ 100 ลิตร
สามารถผสมกันและฉีดพ่นทางใบเป็นละออง ไม่ต้องจี้ ฉีดพ่นทุกๆ 15 วัน ควรฉีดพ่นก่อน 10 โมงเช้า หรือ 5 โมงเย็น เพราะเป็นช่วงปากใบพืชเปิด

ปัญหานี้จะหมดไป
1.ไร่เทพจะไปช่วยแตกรากใหม่ ขยายท่อน้ำเลี้ยง ทำให้ระบบโครงสร้างสมบูรณ์แข็งแรง ฝักใหญ่ เม็ดเยอะ ไม่ฟันหลอ
2.โล่เขียวจะไปช่วยทำให้เส้นใยในโครงสร้างพืชมีความหนาและทน และช่วยให้การเข้าทำลายของโรคและแมลงศัตรูพืชทำได้ยากขึ้น และช่วยให้พืชทนต่อสภาพอากาศร้อนจัดหนาวจัด เขียวทน เขียวนาน
3.ดินเทพ ในกรณีฉีดพ่นทางใบจะช่วยในการจับใบ นำพาสารอาหารเข้าสู่โครงสร้างพืชได้ดีขึ้น และเพิ่มการยึดเกาะที่ผิวใบได้ดี **กรณีดินไม่สมบูรณ์ให้ใช้ดินเทพในขั้นตอนการเตรียมดินก่อนการเพาะปลูก**

เคล็ดลับไร่เทพ “ปลูกมันสำปะหลังให้โตวันโตคืน”

โตวันโตคืน ทั้งในส่วนมันสำปะหลัง และส่วนของเกษตรกร เคล็ดลับไร่เทพ จะทำให้โตไว ใบเขียวเข้ม มันหัวใหญ่ น้ำหนักดี และเปอร์เซ็นต์แป้งสูง ทำให้เกษตรกรเติบโตมีผลผลิตที่ดี มีกำไร ปลอดภัย ไม่ทิ้งสารตกค้าง

จากข้อมูลวิจัยกรุงศรีคาดว่าอุตสาหกรรมมันสำปะหลัง ในปี 2566-2568 มีแนวโน้มเติบโตดี ตามทิศทางการขยายตัวของความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งตลาดในประเทศ (โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมเอทานอล) และตลาดส่งออก ตามการขยายตัวของตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดหลัก ปัจจัยท้าทายของอุตสาหกรรมนี้ ได้แก่ ปริมาณผลผลิตที่มีความไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ และโรคระบาด (โรคใบด่างมันสำปะหลัง) รวมถึงด้านการตลาดที่ยังต้องพึ่งพาตลาดจีนเป็นหลัก

เคล็ดลับไร่เทพ
การแช่ท่อนพันธุ์ด้วย “ไร่เทพและโล่เขียว” จะช่วยเร่งการแตกราก กักตุนอาหารตั้งแต่เริ่มปลูก โดยสูตรแช่ท่อนพันธุ์แบ่งเป็น 2 กรณี คือ
1.กรณีแช่ 3-5 ชั่วโมงก่อนปลูก คือ ไร่เทพ 2-4 ซอง ผสมน้ำ 200 ลิตรและโล่เขียว 80-100 ซีซี
2.กรณีแช่ข้ามคืน (10 ชั่วโมงขึ้นไป แต่ไม่ควรเกิน 24 ชม.) คือ ไร่เทพ 1-2 ซอง ผสมน้ำ 200 ลิตร และ โล่เขียว 50 ซีซี
ต่อมาในช่วง 14-60 วัน ให้ฉีดพ่น ไร่เทพ 1 ซอง ผสมน้ำ 100 ลิตร กับ โล่เขียว 100 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร และดินเทพ (กรณีใช้เป็นสารจับใบ) 20 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร
**ฉีดพ่นทุกๆ 15 วัน**
ตั้งแต่ 60 วัน ขึ้นไป ให้ฉีดพ่น ไร่เทพ 1 ซอง ผสมน้ำ 100 ลิตร กับ โล่เขียว 200 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร และดินเทพ (กรณีใช้เป็นสารจับใบ) 20 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร
**ฉีดพ่นทุกๆ 15 วัน**

 

7 เคล็ดลับขั้นเทพ ทำนาให้ได้ผลผลิตเพิ่ม ต้องเริ่มที่ไร่เทพ

ประชากรส่วนใหญ่ของสังคมไทยปลูกข้าวทำนาเป็นอาชีพหลักมาตั้งแต่โบราณ เราจึงขอแนะนำเคล็ดลับขั้นเทพ ทำนาให้ได้ผลผลิตเพิ่ม ต้องเริ่มที่ไร่เทพ เพื่อประยุกต์ใช้ในแต่ละพื้นที่ให้ประสบความสำเร็จ และสามารถนำแนวทางในการปฏิบัติในทุกๆขั้นตอนของการทำนาได้ (อ่านต่อด้านล่าง)

1.ดินดี คือ ดินที่เหมาะต่อการเพาะปลูก ซึ่งการเตรียมดินจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะดินเป็นปัจจัยหลักของธาตุอาหารสำหรับข้าว แนะนำให้ใช้ “ดินเทพ” ในการปรับโครงสร้างดินให้พร้อมต่อการเพาะปลูก และการไม่เผาฟางจึงเป็นสิ่งที่ควรทำเพราะการเผาฟางจะทำลายสภาพดิน เคล็ดลับขั้นเทพแนะทำให้ใช้ดินเทพช่วยเร่งการสลายตอซังข้าว ช่วยสร้างธาตุในดิน ดินดี ร่วนซุย ปลอดภัย ไม่ทิ้งสารตกค้าง

2.เมล็ดพันธุ์ดี คือ ต้องใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพดี และใช้ “ไร่เทพ” ผสมกับ “ดินเทพ” แช่เมล็ดพันธุ์ก่อนหว่านจะช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์การงอก และช่วยลดการเกิดโรคที่เกิดจากเชื้อราได้ มีอัตราการใช้ดังนี้

-กรณีรดหัวกระสอบ ใช้ไร่เทพ 1 ซอง ต่อน้ำ 100 ลิตร กับ ดินเทพ 20 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร **รดให้เปียกชุ่มทั้งกระสอบ**

(กรณีนี้จะรดหลังแช่เมล็ดพันธุ์ในน้ำแล้ว ให้รดไร่เทกับดินเทพที่หัวกระสอบให้ชุ่มก่อนนำไปหว่านในนาข้าว)

-กรณีแช่ 3 ชั่วโมง ใช้ไร่เทพ 1 ซอง ต่อน้ำ 100 ลิตร กับ ดินเทพ 20 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร

-กรณีแช่ข้ามคืน (10 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง) ใช้ไร่เทพ 1 ซอง ต่อน้ำ 200 ลิตร กับ ดินเทพ 20 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร

เมล็ดข้าวจะงอกขนาด “ตุ่มตา” (มียอดและรากเล็กน้อยโดยรากจะยาวกว่ายอด) พร้อมที่จะนำไปหว่านได้

3.ปุ๋ยดี คือ ต้องมีการให้ปุ๋ยทางใบ “โล่เขียว” ช่วยพืชเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ แข็งแรง พร้อมยังทนต่อสภาพอากาศที่ไม่เหมะสม ทนต่อโรคและแมลง และให้ปุ๋ยทางดินไปพร้อมกันด้วย

4.บำรุงดี คือ การบำรุงด้วยอาหารเสริมพืช “ตราไร่เทพ” จะทำให้ช่วยเพิ่มผลผลิต ช่วยกระตุ้นการดูดซึมธาตุอาหาร ทำให้ระบบรากเดินดี ลำล้นแข็งแรง และมีกลิ่นที่แมลงไม่ชอบ แนะนำให้ใช้ไร่เทพผสมดินเทพ (สารจับใบ) ฉีดพ่นทางใบทุกๆ 10-15 วัน

5.น้ำดี คือ การจัดการน้ำอย่างเหมาะสม การนำน้ำเข้า-ออกนา ตามระยะของข้าว โดยให้เอาน้ำเข้าก่อนตีดิน หลังทำเทือกเสร็จแล้วให้ระบายน้ำออกให้ดินแห้งแบบหมาดๆแล้วจึงหว่านข้าว และปรับหน้าดินให้สม่ำเสมอ

6.การดูแลดี คือการดูแลเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนของการเจริญเติบโต เพราะเนื่องด้วยในปัจจุบันจะมีโรคพืชโรคแมลงที่มาพร้อมกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทำให้การดูแลแปลงนาต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมต่อเวลานั้นๆ

7.การเก็บเกี่ยวดี คือ ควรเก็บเกี่ยวในเวลาที่เหมาะสม โดยการเก็บเกี่ยวระยะพลับพลึง คือระยะการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวที่นับจากวันที่ข้าวออกดอกไปแล้ว 28-30 วัน และเก็บเกี่ยวในสภาพที่นาแห้ง หรืออย่างน้อยก็ไม่มีน้ำขังในนาจะช่วยลดการสูญเสียผลผลิตจากข้าวที่ร่วงระหว่างการเก็บเกี่ยวได้ 20%

 

   

เคล็ดลับแช่เมล็ดพันธุ์ข้าว

วันนี้ขอแนะนำเคล็ดลับการแช่เมล็ดพันธุ์ข้าวก่อนที่จะหว่านลงแปลงนา ด้วยวิธีง่ายๆ “เคล็ดลับไร่เทพ” ซึ่งประโยชน์ของการแช่เมล็ดพันธุ์ข้าว จะทำให้เปอร์เซ็นต์การงอกสูงขึ้น ทำให้งอกได้ไว ลดการเกิดโรคที่เกิดจากเชื้อรา ทำให้ข้าวออกสม่ำเสมอ ทำให้ข้าวมีรากมากขึ้น ทำให้มีการเจริญเติบโตได้ดี และข้าวแตกกอดี โตได้อย่างสมบูรณ์

การแช่เมล็ดพันธุ์ข้าวให้ได้คุณภาพสูงจะช่วยบำรุงเมล็ดพันธุ์ข้าวจนกระทั่งงอกเป็นต้นกล้าที่สมบูรณ์ ซึ่งเคล็ดลับนี้สามารถนำไปใช้ได้กับทุกสายพันธุ์ข้าวเลย

อัตราการใช้

-กรณีรดหัวกระสอบ ใช้ไร่เทพ 1 ซอง ต่อน้ำ 100 ลิตร กับ ดินเทพ 20 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร **รดให้เปียกชุ่มทั้งกระสอบ**

(กรณีนี้จะรดหลังแช่เมล็ดพันธุ์ในน้ำแล้ว ให้รดไร่เทกับดินเทพที่หัวกระสอบให้ชุ่มก่อนนำไปหว่านในนาข้าว)

-กรณีแช่ 3 ชั่วโมง ใช้ไร่เทพ 1 ซอง ต่อน้ำ 100 ลิตร กับ ดินเทพ 20 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร

-กรณีแช่ข้ามคืน (10 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง) ใช้ไร่เทพ 1 ซอง ต่อน้ำ 200 ลิตร กับ ดินเทพ 20 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร

เมล็ดข้าวจะงอกขนาด “ตุ่มตา” (มียอดและรากเล็กน้อยโดยรากจะยาวกว่ายอด) พร้อมที่จะนำไปหว่านได้

ไม่ต้องกังวล .. น้ำท่วมนาแต่ข้าวไม่ตาย

ตอนนี้ประเทศไทยตอนบนพบกับวิกฤตน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากมาเร็วและหนักกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้เกิดความเสียหายในพื้นที่จังหวัดของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ตาก เชียงราย น่าน แพร่ พะเยา และ สุโขทัย ซึ่งส่งผลต่อภาคการเกษตรด้วย ดังนั้นในพื้นที่ที่น้ำจะไหลผ่านลงสู่ทะเลอ่าวไทย เกษตรกรควรมีการเตรียมรับมือกับมวลน้ำจำนวนมาก

 

เราไม่สามารถเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนทิศทางการไหลของน้ำได้แต่เราสามารถที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวช่วยได้ กล่าวคือตัวช่วยให้พืชสามารถทนได้กว่าปกติในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต แต่พืชจะสามารถเติบโตให้สามารถให้ผลผลิตได้ และฟื้นตัวได้ไวหากสามารถรีบระบายน้ำออกได้ทันเวลา

 

 

โล่เขียว มีส่วนผสมของแมกนีเซียมกับสังกะสี จะช่วยทำให้พืชเขียวทน เขียวนาน ทนทานต่อโรคและแมลง อีกทั้งจะช่วยพืชทนต่อสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสมได้ดี

ไร่เทพ จะช่วยกระตุ้นการดูดซึมธาตุอาหาร ทำให้พืชนำสารอาหารไปใช้ได้ทันที ส่งผลให้เพิ่มผลผลิต เพิ่มน้ำหนัก และมีกลิ่นที่แมลงไม่ชอบ ที่สำคัญช่วยฟื้นฟูได้ดี

ดินเทพ ในกรณีใช้เป็นสารจับใบเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของไร่เทพกับโล่เขียว

 

 

อัตราการใช้

โล่เขียว 200 ซีซี ผสมน้ำ 200 ลิตร

ไร่เทพ 1 ซอง ผสมน้ำ 100 ลิตร

ดินเทพ 20 ซีซี ผสมน้ำ 200 ลิตร

สามารถผสมกันแล้วฉีดพ่นทางใบ เป็นละอองไปเกาะไม่ต้องจี้ ฉีดพ่นก่อน 10 โมงเช้า หรือหลัง 5 โมงเย็น

เจ้าของสวนชื่นใจ “อินทผลัม” 1 ต้น 12 จั่น ลูกดก รสชาติดี ขายได้กำไร

อินทผลัม เป็นพืชเศรษฐกิจที่กำลังมาแรง และเกษตรกรกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะมีการปลูกมากขึ้น เนื่องจากปลูกง่าย เก็บผลผลิตได้ในระยะยาว ให้ผลตอบแทนสูง ที่สำคัญเป็นผลไม้ที่เจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีในเขตที่มีอากาศร้อนและแห้งแล้ง

อินทผลัม มีประโยชน์ช่วยบำรุงร่างกาย เพิ่มกำลัง ขจัดความเมื่อยล้า ช่วยดับความหนาวเย็น ช่วยในการขับถ่าย ถ่ายสะดวก ป้องกันโรคท้องผูก เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เนื่องจากในอินทผลัมมีสารฟีลกูลีน จึงช่วยบำรุงการหลั่งน้ำเชื้อของเพศชายได้ และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดในสมองด้วย

วันนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับเกษตรกรผู้เชี่ยวชาญในการปลูกอินทผลัม นั่นคือ คุณนุช หรือคุณวรนุช พันธุ์ศิริ เป็นชาวตำบลเลาขวัญ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเจ้าของสวนอินทผลัม 3 เจ ฟาร์ม เป็นเกษตรกรตัวอย่างที่สามารถปลูกอินทผลัมได้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพดี เพราะใส่ใจในทุกๆขั้นตอนการผลิต เริ่มตั้งแต่การเตรียมดิน โดยมีการวัดค่า pH ของดิน และใช้ดินเทพปรับโครงสร้างดินให้ดินที่สมบูรณ์เหมาะสมแก่การเพราะปลูก (ใช้ร่วมกับปุ๋ยมูลสัตว์) จากนั้นบำรุงธาตุอาหารให้กับพืชตรงจุดตามความต้องการของพืชด้วยไร่เทพและโล่เขียว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการปลูกอินทผลัมให้ได้ผลผลิตที่สูง เจ้าของสวนชื่นใจ

การเตรียมดินใช้ดินเทพ อัตราส่วน ดินเทพ 40 ซีซี ต่อน้ำ 50 ลิตร รดที่โคนต้น (ใช้ร่วมกับมูลสัตว์)

การบำรุงด้วยไร่เทพและโล่เขียว อัตราส่วน
ไร่เทพ 1 ซอง ต่อน้ำ 100 ลิตร
โล่เขียว 100 ซีซี ต่อน้ำ 100 ลิตร

เคล็ดลับเพิ่มผลผลิต “มันสำปะหลัง”

มันสำปะหลังจัดได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย เกษตรกรในหลายพื้นที่สร้างรายได้จากการปลูกมันสำปะหลัง และในอนาคตคาดว่าความต้องการณ์ใช้มันสำปะหลังในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีการนำมันสำปะหลังมาผลิตในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน จึงส่งผลให้เกษตรกรใส่ใจกับการปลูกมันสำปะหลังให้มีคุณภาพและปริมาณสูง

      การใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่เตรียมดินจนถึงการเก็บเก็บผลผลิตจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากอยากประสบความสำเร็จในการปลูกมันสำปะหลัง ไร่เทพมีเคล็ดลับเพิ่มผลผลิตในการปลูกมันสำปะหลังให้มีทั้งคุณภาพและปริมาณที่สูงได้

ในขั้นตอนก่อนปลูก การเตรียมดินให้มีความสมบูรณ์ก่อนปลูกด้วย “ดินเทพ” สารปรับโครงสร้างดินที่เป็นสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ในดิน ช่วยลดความเป็นกรดของดิน เพิ่มประสิทธิภาพการย่อยสลายอินทรียวัตถุในดิน ทำให้ดินฟู ร่วนซุย ทั้งมีความปลอดภัยไม่ทิ้งสารตกค้าง อัตราการใช้ ดินเทพ 40-50 ซีซี ต่อน้ำ 50 ลิตร

การแช่ท่อนพันธุ์ด้วย “ไร่เทพและโล่เขียว” จะช่วยเร่งการแตกราก กักตุนอาหารตั้งแต่เริ่มปลูก โดยสูตรแช่ท่อนพันธุ์แบ่งเป็น 2 กรณี คือ

  • 1.กรณีแช่ 3-5 ชั่วโมงก่อนปลูก คือ ไร่เทพ 2-4 ซอง ผสมน้ำ 200 ลิตรและโล่เขียว 80-100 ซีซี
  • 2.กรณีแช่ข้ามคืน (10 ชั่วโมงขึ้นไป แต่ไม่ควรเกิน 24 ชม.) คือ ไร่เทพ 1-2 ซอง ผสมน้ำ 200 ลิตร และ โล่เขียว 50 ซีซี

ต่อมาในช่วง 14-60 วัน ให้ฉีดพ่น ไร่เทพ 1 ซอง ผสมน้ำ 100 ลิตร กับ โล่เขียว 100 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร และดินเทพ (กรณีใช้เป็นสารจับใบ) 20 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร
**ฉีดพ่นทุกๆ 15 วัน**

ตั้งแต่ 60 วัน ขึ้นไป ให้ฉีดพ่น ไร่เทพ 1 ซอง ผสมน้ำ 100 ลิตร กับ โล่เขียว 200 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร และดินเทพ (กรณีใช้เป็นสารจับใบ) 20 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร
**ฉีดพ่นทุกๆ 15 วัน**

หมายเหตุ ฉีดพ่นทางใบเป็นละออง ไม่ต้องจี้ ควรฉีดพ่นก่อน 10 โมงเช้า และหลัง 5 โมงเย็น

วัชพืชตัวร้าย … ปัญหาใหญ่ของชาวนา

เลี่ยงไม่ได้เลยกับปัญหาเรื่องหญ้าในนาข้าวของชาวนาที่ต้องพบเจอ แต่หากมีวิธีจัดการที่ถูกต้องและรวดเร็วก็จะทำให้ความเสียหายลดน้อยลง ซึ่งจะพบว่าวิธีการป้องกันกำจัดวัชพืชในแปลงนาข้าวจะต้องใช้สารป้องกันกำจัดที่เฉพาะเจาะจงกับวัชพืชนั้นๆ และเคล็ดลับไร่เทพที่อยากแนะนำให้ผสมดินเทพลงไปด้วยเพื่อช่วยลดแรงตึงผิวและให้สารป้องกันกำจัดวัชพืชแพร่เข้าสู่ใบได้ดีและเร็วขึ้น ทำให้สารเหล่านั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อัตราการใช้ ดินเทพ 20 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร สามารถผสมฉีดพ่นพร้อมสารป้องกันกำจัดวัชพืช

หญ้าข้าวนก หรือ หญ้าพุ่มพวง (Bamyard grass) ใบอ่อนจะเป็นคลื่นสีเขียวอ่อนถึงสีเขียว เส้นใบสีเขียวอ่อน ใบจะยาวกว่าใบข้าว ดอกเป็นช่อ  สารกำจัดวัชพืช ประเภทก่อนวัชพืชงอก เช่น เพรททิลาคลอร์, บิวทาคลอร์ ประเภทหลังวัชพืชงอก เช่น ควินคลอแรก, ไซฮาโลฟอบ-บิวทิล, บีสไพริแบก-โซเดียม, ฟีนอกซาพรอป-พี-เอทิล, โพรพานิล

หญ้าดอกขาว ลำต้นตรงหรือโน้ม ความสูง 12-120 ซ.ม.  ใบเรียบและปรกแหลมและเรียวยาว  กาบใบเรียบ มีเยื่อกันน้ำฝนเป็นแผ่นบาง  สารกำจัดวัชพืชประเภทก่อนวัชพืชงอก เช่น เพรททิลาคลอร์, บิวทาคลอร์ ประเภทหลังวัชพืชงอก เช่น ฟีนอกซาพรอป-พี-เอทิล, ไซฮาโลฟอพ-บิวทิล, ควิสซาโลฟอพ-พี-เทฟูริล

กกขนาก  ลำต้นมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมไม่มีข้อปล้อง  ใบไม่แยกเป็นก้านใบและแผ่นใบ   สารกำจัดวัชพืช ประเภทก่อนวัชพืชงอก เช่น เพรททิลาคลอร์, บิวทาคลอร์ ประเภทหลังวัชพืชงอก เช่น เมทซัลฟูรอน-เมทธิล+คลอริมูรอน-เอทธิล, 2,4-D,บีสไพริแบก-โซเดียม, โพรพานิล, ไพราโซซัลฟูรอน-เอทธิล

กกทราย ลำต้นมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมไม่มีข้อปล้อง ใบไม่แยกเป็นก้านใบและแผ่นใบ  สารกำจัดวัชพืชประเภทก่อนวัชพืชงอก เช่น เพรททิลาคลอร์, บิวทาคลอร์, ออกซาไดอะซอน ประเภทหลังวัชพืชงอก เช่น เมทซัลฟูรอน-เมทธิล+คลอริมูรอน-เอทธิล, 2,4-D, บีสไพริแบก-โซเดียม, โพรพานิล

หนวดปลาดุก ใบแตกขึ้นเป็นกอ  แบนและบอบบางคล้ายพัด  ลำต้นอาจมีลักษณะกลมหรือเป็นสามเหลี่ยมไม่มีข้อปล้อง ใบไม่แยกเป็นก้านใบและแผ่นใบ  ใบแหลมแผ่นใบเล็กและยาว สารกำจัดวัชพืช ประเภทก่อนวัชพืชงอก เช่น เพรททิลาคลอร์, บิวทาคลอร์ ประเภทหลังวัชพืชงอก เช่น เมทซัลฟูรอน-เมทธิล+คลอริมูรอน-เอทธิล, 2,4-D, บีสไพริแบก-โซเดียม, โพรพานิ

 

เจอเพลี้ยไฟ ทำไงดี?

ช่วงนี้เพลี้ยไฟระบาดลงแปลงนาเป็นจำนวนมาก จัดได้ว่าเป็นปัญหาหนึ่งของเกษตรกรที่ต้องพบเจอ เพราะมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่ร้อนแล้ง ฝนที่ทิ้งช่วงยาวนาน รวมทั้งการหนีตายจากแปลงใกล้เคียง

แต่หากเจอเพลี้ยไฟแล้ว ทำไงดี?
ปัญหานี้ตอบได้จากประสบการณ์จริงของแปลงนาผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ตราไร่เทพ กล่าวคือ นาข้าว 50 ไร่ แปลงนี้ มีอายุ 15 วัน ได้ฉีดผลิตภัณฑ์ ตราไร่เทพ รอบแรกในอัตราการใช้ดังนี้ ไร่เทพ 12 ซอง ดินเทพ 400 ซีซี (20 ฝา) และโล่เขียว 4 ขวด (4000 มิลลิลิตร) โดยใช้โดรนเกษตรฉีดพ่นทั่วแปลงนา ส่วนนี้จะทำให้ข้าวได้รากอย่างสมบูรณ์และต้นแข็งแรงพร้อมที่จะเติบโตไปในระยะต่อไป

แต่พอข้าวอายุ 20 วัน เริ่มมีการระบาดของเพลี้ยไฟในพื้นที่ซึ่งทางเราไม่ได้ฉีดป้องไว้ก่อน เนื่องด้วยไร่เทพมีคุณสมบัติพิเศษที่มีกลิ่นที่แมลงไม่ชอบ ในช่วงแรกเพลี้ยไฟยังไม่มาลงแปลงมาจะเห็นว่าเมื่อเทียบกับแปลงนาข้างๆ แปลงนาที่ไม่ได้ใช้ไร่เทพเพลี้ยลงใบข้าวมีสีเขียวอ่อน ซึ่งแตกต่างกับแปลงนาที่ใช้ไร่เทพอย่างชัดเจน แต่เมื่อแปลงนาข้างๆมีการฉีดพ่นกำจัดเพลี้ยไฟแล้วนั้น ทำให้เพลี้ยไฟเหล่านั้นหนีตายมาแปลงข้างๆ เกิดความเสียหายจากการโดนเพลี้ยไฟเข้าทำลายต้นข้าวเกิดปลายใบไหม้ ข้าวมีอาการเหลือง แต่เมื่อเทียบอาการเพลี้ยลงแปลงนากับแปลงนาที่ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ ตราไร่เทพ แล้วพบว่าแปลงนาที่ใช้ผลิตภัณฑ์ ตราไร่เทพ มีสีเหลืองที่เกิดจากการเข้าทำลายของเพลี้ยไฟน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อเจอเพลี้ยไฟหนีตามาลงแปลงนา จึงฉีดพ่นยากำจัดเพลี้ยไฟร่วมกับผลิตภัณฑ์ ตราไร่เทพ อัตราการใช้ไร่เทพ 10 ซอง ผสมโล่เขียว 4 ขวด (4000 มิลลิลิตร) และดินเทพ 400 ซีซี (20 ฝา) โดยใช้โดรนเกษตรฉีดพ่นทั่วแปลงนา

หลังการฉีดพ่น 3 วัน เห็นได้ว่า ข้าวมีการฟื้นตัวจากการเข้าทำลายของเพลี้ยไฟได้อย่างรวดเร็ว จากที่ต้นข้าวที่มีสีอมเหลืองและใบมีอาการโค้งงอ ปลายใบไหม้ ตอนนี้ต้นข้าวกลับมามีความเขียวสด ต้นข้าวยืดตรงไม่โค้งงอ ระบบรากมีความสมบูรณ์ รากเยอะ รากขาวดูสะอาดไม่เป็นโรค และพร้อมจะยึดเกาะดินที่ร่วนซุยพยุงต้นให้เติบโตต่อไป

ซึ่งจะเห็นได้ว่า ถึงแม้ว่าแปลงนาข้าวจะเกิดปัญหาที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่หากปัญหาที่เกิดขึ้นถูกแก้ไขได้ถูกวิธีและรวดเร็วปัญหาเหล่านั่นก็จะหมดไป

#ไร่เทพ #ดินเทพ #โล่เขียว #เพลี้ยไฟ #นาข้าว #เกษตรกร

เจอเพลี้ยไฟ ทำไงดี?

ไร่เทพปันน้ำใจ “มอบทุการศึกษา ให้กับเด็กพื้นที่ห่างไกลและขาดแคลน”

คุณเชอรี่ มนต์พิชิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์ตราไร่เทพ เห็นความสำคัญในการให้โอกาส และการศึกษาจึงเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการดำเนินชีวิตให้หลุดพ้นจากความจนได้ เนื่องจากปัญหาเด็กด้อยโอกาสที่เกิดจากความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในสังคม เด็กและเยาวชนหลายๆ คนกลายเป็นเด็กด้อยโอกาส ทำให้ขาดโอกาสในการมีคุณภาพชีวิตที่ดี

คุณเชอรี่จึงได้มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ พื้นที่ห่างไกล และขาดแคลน ผ่านมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการ “ส่งเสริมการศึกษาให้สว่างไสว สร้างอนาคตที่สดใสให้น้อง” และร่วมบริจาคและจุดไฟแห่งปัญญาให้แก่เด็กๆ เพื่อให้อนาคตของพวกเขาส่องสว่าง และพร้อมส่งต่อสิ่งดีๆ คืนสู่สังคม โดยพร้อมเป็นแรงสนับสนุนที่จะช่วย “จุดประกายความรู้ สู่พัฒนาการสมวัย” ของเด็กยากไร้ที่ขาดโอกาสในการพัฒนาศักยภาพ

ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณเชอรี่ ได้มีการมอบทุนการศึกษานี้อย่างต่อเนื่องและตั้งใจจะทำต่อไป เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้น

ไร่เทพปันน้ำใจ “มอบทุการศึกษา ให้กับเด็กพื้นที่ห่างไกลและขาดแคลน”

เฝ้าระวังหนอนเจาะผลทุเรียน

เฝ้าระวังหนอนเจาะผลทุเรียน

เฝ้าระวังหนอนเจาะผลทุเรียน

 

สภาพอากาศในช่วงนี้อากาศร้อน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เตือนผู้ปลูกทุเรียน เฝ้าระวังหนอนเจาะผลทุเรียน ศัตรูพืชเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่ทำความเสียหายให้แก่ทุเรียน
การระบาดของศัตรูพืชทำให้ผลผลิตทุเรียนลดลง และคุณภาพของผลผลิตต่ำ แมลงและไร ศัตรูพืชที่สำคัญและทำความเสียหายทางเศรษฐกิจให้แก่ทุเรียน
โดยหนอนเจาะผลทุเรียนมักพบการเข้าทำลายในช่วงที่ต้นทุเรียนอยู่ในระยะติดผล
เกษตรกรควรหมั่นสำรวจสวนทุเรียนในระยะนี้ จะพบการเข้าทำลายทุเรียนตั้งแต่ผลเล็ก
อายุประมาณ 2 เดือน จนถึงผลใหญ่ทำให้ผลเป็นแผล อาจเป็นผลให้ผลเน่าและร่วงเนื่องจากเชื้อราเข้าทำลายซ้ำ
การที่ผลมีรอยแมลงทำลายทำให้ขายไม่ได้ราคา
ถ้าหากหนอนเจาะกินเข้าไปจนถึงเนื้อผล ทำให้บริเวณดังกล่าวเน่าเมื่อผลสุก โดยจะสังเกตเห็นมูลและรังของหนอนได้อย่างชัดเจนที่บริเวณเปลือกผลทุเรียน
และจะมีน้ำไหลเยิ้มเมื่อทุเรียนใกล้แก่ ผลทุเรียนที่อยู่ชิดติดกันหนอนจะเข้าทำลายมากกว่าผลที่อยู่เดี่ยวๆ เพราะแม่ผีเสื้อชอบวางไข่บริเวณรอยสัมผัสนี้

 

แนวทางป้องกัน/แก้ไข

    1. หมั่นตรวจดูผลทุเรียน เมื่อพบรอยทำลายของหนอน ให้ใช้ไม้หรือลวดแข็งเขี่ยตัวหนอนออกมาทำลาย
    2. ผลทุเรียนที่ถูกหนอนเจาะ ควรทำลายโดยการเผาไฟหรือฝัง
    3. ไร่เทพ เป็นอาหารทางใบที่มีผลต่อการสังเคราะห์แสงของพืช โดยมีกลิ่นที่แมลงไม่ชอบ ช่วยป้องกันแมลงได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังไปช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซม และช่วยเพิ่มผลผลิตด้วย และปุ๋ยโล่เขียว จะช่วยทำให้ผลและใบสมบูรณ์ ใบใหญ่ เขียวเข้ม ต้นแข็งแรง ผลไม่โทรมและยังช่วยให้ทนต่อโรคได้ดียิ่งขึ้น ส่วนดินเทพ สารปรับโครงสร้างดิน มีอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในดิน จึงช่วยเพิ่มจุลินทรีย์และช่วยส่งเสริมการสร้างธาตุอาหารในดิน อีกทั้งใช้แทนสารจับใบ ทำให้ไร่เทพและปุ๋ยโล่เขียวมีประสิทธิภาพมากขึ้น (อัตราการใช้ไร่เทพ 1 ซอง ผสมน้ำ 100 ลิตร ผสมปุ๋ยโล่เขียว 100 มิลลิลิตร และผสมดินเทพ 10 มิลลิลิตร)
    4. ตัดแต่งผลทุเรียนที่มีจำนวนมากเกินไป ควรตัดแต่งผลไม่ให้ติดกัน และใช้ใช้กิ่งไม้หรือกาบมะพร้าวคั่นระหว่างผล เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเต็มวัยวางไข่หรือตัวหนอนเข้าหลบอาศัย สามารถลดการทำลายของหนอนเจาะผลได้
    5. การห่อผลด้วยถุงพลาสติกสีขาวขุ่น เจาะรูที่บริเวณขอบล่างเพื่อให้หยดน้ำระบายออก โดยเริ่มห่อผลตั้งแต่ผลทุเรียนมีอายุ 6 สัปดาห์ เป็นต้นไป จะช่วยลดความเสียหายได้
    6. หากพบการระบาดรุนแรงของหนอนเจาะผลทุเรียน ให้เกษตรกรพ่นด้วยสารฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพเมื่อจำเป็นต้องใช้ คือ แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน 5% EC อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเฉพาะส่วนผลทุเรียนที่พบการทำลายของหนอนเจาะผล

 

หมายเหตุ การผลิตทุเรียนส่งออกควรจัดการตามระบบเกษตรดีที่เหมาะสม (Good Agricultural Practice; GAP) กรณีการใช้สารเคมีควรใช้อัตราตามฉลาก และเกษตรกรควรทิ้งช่วงก่อนเก็บเกี่ยวหลังจากการพ่นสารครั้งสุดท้ายแล้วอย่างน้อย 7 วัน

 

     

 

 

ที่มา: กรมวิชาการเกษตร

สอบถามข้อมูล-เทคนิคการปลูกพืชชนิดต่างๆ เรามีทีมส่งเสริมการขายที่เชี่ยวชาญ พร้อมตอบคำถามเกษตรกรตลอดเวลา
🌾👀🌾🍅🍆🌽🍄🌰 🍇🍈🍉🍊🍋🍌🍍🍎🍏🍐
—————————-
Tel. : 098-280-8200
—————————-

ไร่เทพสัญจรสหกรณ์การเกษตรบางน้ำเปรี้ยว

 

ไร่เทพสัญจรสหกรณ์การเกษตรบางน้ำเปรี้ยว

 เก็บตกบรรยากาศความประทับใจในบูธไร่เทพสัญจร ณ สหกรณ์การเกษตรบางน้ำเปรี้ยว จำกัด

“ผลิตภัณฑ์ ตรา ไร่เทพ มีจัดจำหน่ายให้เกษตรกรในสหกรณ์การเกษตรบางน้ำเปรี้ยว” แล้วนะครับ

               

 

   

ไร่เทพสัญจรสหกรณ์บางน้ำเปรี้ยว

ไม่เผาฟาง-สร้างธาตุในดิน

ไม่เผาฟาง-สร้างธาตุในดิน

ไม่เผาฟาง-สร้างธาตุในดิน

             

                  หลังฤดูการเก็บเกี่ยวก่อนที่จะเข้าหน้าฝนที่เป็นฤดูการปลูกข้าวของเกษตรกร ด้วยหลายๆปัจจัยจึงทำให้เกษตรกรไม่สามารถเผาฟางได้ วิธีการย่อยสลายตอซังจึงเป็นวิธีที่นิยมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด แต่วิธีการนี้ต้องอาศัยเวลาในการย่อยสลายเพื่อให้อินทรียวัตถุในดินได้ย่อยสลายอย่างสมบูรณ์และเกิดแร่ธาตุอาหารในดินสำหรับการปลูกข้าวครั้งใหม่ได้ แต่ถ้าการย่อยสลายฟางข้าวไม่สมบูรณ์และเริ่มการปลูกข้าวครั้ง ใหม่ทันที ข้าวจะไม่โตและตายในที่สุด ดังนั้นการมีสารปรับโครงสร้างดิน “ดินเทพ” ที่มีประสิทธิภาพในการย่อยสลายตอซัง นับเป็นวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่ง

“การทำนาโดยไม่เผาตอซังและฟางข้าว มีผลดี คือ รักษาโครงสร้างของดินให้คงสภาพร่วนซุยไม่แข็งกระด้าง ลดปัญหามลพิษทางอากาศ และลดการเกิดปัญหาภาวะโลกร้อน ธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญของพืชไม่สูญเสียไป”

ผลเสียที่เกิดขึ้นจากการเผาฟาง

1.ฝุ่น PM2.5 : ทำให้เกิดฝฝุ่น ควันและก๊าซพิษ “อันตรายถึงชีวิต”

2.ทําให้พื้นที่เพาะปลูกเสื่อมโทรมทำลายบอินทรียวัตถุและธาตุอาหารในดินต้องใช้ดินเทพปรับโครงสร้างดิน “พืชจะอ่อนแอ”

3.ทำลายธาตุอาหารในดิน ทำลายอินทรียวัตถุในดิน สูญเสียธาตุอาหารจากฟาง “ดินมีธาตุอาหารต่ำ”

4.ทำให้ดินเป็นกรดมากขึ้น : ธาตุอาหารจะละลายให้พืชดูดกินได้น้อยลง “พืชจะขาดธาตุอาหาร”

5.ทำลายสิ่งมีชีวิต ที่มีประโยชน์ในดิน “ผลผลิตลด”

ฟางข้าวที่อยู่ในนานั้นสามารถเปลี่ยนให้เป็นปุ๋ย เพราะฟางข้าวมีธาตุฟอสฟอรัสสูงมากเป็นประโยชน์ต่อดิน โดยมีวิธีการทำดังนี้

  1. นำฟางมาหมักกลบกับดิน แล้วใช้จุลินทรีย์ย่อยสลาย “ดินเทพ” เข้าไป
  2. การใส่จุลินทรีย์เข้าไปย่อยสลายโดยใช้สารปรับโครงสร้างดิน “ดินเทพ” หรือจะหมักเองจากจุลินทรีย์หน่อกล้วยก็ได้ เพราะในหน่อกล้วยมีกลุ่มจุลินทรีย์ที่โคนกล้วยอยู่แล้วเพราะมีความชื้น จุลินทรีย์ชอบเกาะกลุ่มอยู่ ก็นำมาขยายเชื้อ โดยการใช้กากน้ำตาลผสมกับหน่อกล้วยสับ แล้วก็หมักทิ้งไว้ 7 วัน หลังจากนั้นก็นำมาบีบให้เกิดหัวเชื้อ จะได้หัวเชื้อจุลินทรีย์หน่อกล้วย หลังจากนั้นก็นำไปใส่กับน้ำเปล่าแล้วเติมกากน้ำตาลลงไป คนทุกวัน ทิ้งไว้ประมาณ 5 วัน แล้วก็นำไปปล่อยในแปลงนา
  3. เวลานำไปปล่อยในแปลงนา คนปล่อยไม่จำเป็นต้องเดินเข้าไปในนา เพราะเราต้องปล่อยน้ำเข้านาอยู่แล้ว ให้หยด “ดินเทพ” ลงทางเข้าประตูน้ำ เพราะน้ำไปถึงไหนตัวดินเทพก็วิ่งตามไปถึงนั่นเหมือนกัน หรือสามารถเจาะขวด “ดินเทพ” และผูกไปกับท้ายรถตี โดยไม่จำเป็นต้องเดินให้เหนื่อย นี่เป็นเทคนิคง่ายๆ
  4. อัตราส่วนการใช้ดินเทพ 1 ขวด (500 มิลลิลิตร) ใช้ได้ 10-12 ไร่ หรือยิ่งใส่มากก็ยิ่งสลายเร็ว โดยดินเทพจะไปย่อยสลายฟาง เศษวัสดุต่างๆ ที่อยู่ในนาที่เป็นอินทรียวัตถุให้ดินดีเหมาะแก่การเพาะปลูก ควรหมักไว้ไม่ต่ำกว่า 7 วัน เพื่อให้คายก๊าซ เพราะในฟางข้าวเกิดการทับถมกันอยู่ในดิน จะเกิดก๊าซ มีความร้อน ถ้าก๊าซคายไม่หมดจะทำให้ข้าวต้นเหลืองแห้ง ถ้าเราหว่านข้าวไปแล้วก๊าซไม่หมดแล้วต้นข้าวเหลือง ให้แก้โดยวิธีปล่อยน้ำออกให้แห้ง ให้ดินแตกเป็นหัวระแหงออกมา ให้อากาศเข้าไปถ่ายเทดูดก๊าซออกมาได้ นี่คือวิธีง่ายๆ

 

 

 

 

“การหมักฟางจะทำให้เราประหยัดต้นทุน โดยจะได้ทั้งฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม ธาตุอาหารฟอสฟอรัสจะช่วยในการทำให้ข้าวแข็งแรง และป้องกันโรค ส่วนโพแทสเซียมจะช่วยในการสร้างรวง และสร้างแป้งให้ข้าว ซึ่งสองแร่ธาตุนี้มีอยู่แล้วในฟางข้าว เขาจึงใช้ฟางข้าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

#ดินเทพ #ดินฟู #ร่วนซุย #ปลอดภัย #ไร้สารตกค้าง

สูตรเด็ดแช่ท่อนพันธุ์มัน

สูตรเด็ดแช่ท่อนพันธุ์มัน ด้วยไร่เทพ และปุ๋ยโล่เขียว

  • แช่ท่อนพันธุ์ก่อนปลูก

เลือกท่อนพันธุ์ที่สะอาดปราศจากโรคและแมลงทำลายจากต้นมันสำปะหลังอายุ 8-12 เดือน  ตัดเก็บไว้ไม่เกิน 15 วัน ควรทำแปลงขยายท่อนพันธุ์แยกต่างหาก ดูแลรักษาต้นมันสำปะหลังให้แข็งแรง จะทำให้ต้นมันสำปะหลังทนทานต่อการเข้าทำลายของศัตรูต่าง ๆ ได้

  • วิธีการแช่ท่อนพันธุ์

ตัดท่อนพันธุ์ยาวประมาณ 20 -25 เซนติเมตร มีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 ตา ตัดท่อนพันธุ์โดยใช้เลื่อยหรือมีดคมๆ   เพื่อไม่ให้ท่อนพันธุ์ช้ำ

 

สูตรเด็ดแช่ท่อนพันธุ์มัน ด้วยไร่เทพ และปุ๋ยโล่เขียว : กรณีแช่ 3-5 ชั่วโมงก่อนปลูก

  • ไร่เทพ 2-4 ซอง ผสมน้ำ 200 ลิตร **
  • โล่เขียว 80-100 cc
  • แช่ท่อนมัน 30 นาที ถึง 5 ชั่วโมง  ก่อนปลู

สูตรเด็ดแช่ท่อนพันธุ์มัน ด้วยไร่เทพ และปุ๋ยโล่เขียว : กรณี แช่ข้ามคืน (10 ชั่วโมงขึ้นไป แต่ไม่ควรเกิน 24 ชม.)

  • ไร่เทพ 1-2 ซอง ผสมน้ำ 20 ลิตร
  • โล่เขียว 50 cc

สูตรเด็ดแช่ท่อนพันธุ์มัน ด้วยไร่เทพ และปุ๋ยโล่เขียว : กรณี แช่ 12 ชั่วโมง

  • ไร่เทพ สามารถ ใช้เข้มข้นได้มากกว่า 4 ซอง หากแช่ ในระยะเวลาสั่นๆ  แต่ไม่ควรเกิน 6 ซองผสมน้ำ 200 ลิตร
  • ปุ๋ยโล่เขียว สามารถ ใช้ได้ตั้งแต่ 50-200 cc แต่แนะนำ เรื่องการแช่ที่นานกว่า 3 ชม. แบบ ความเข้มข้นต่ำ จะเห็นผล มากกว่า

 

 

.
😊ไร่เทพ คุณภาพขั้นเทพ
สารที่เป็นส่วนผสมสำคัญ
1. สารฮิวมิค (Humus หรือ Humic Substance )
2. ฟูลวิค แอซิด (Fulvic Acid)
3. อะมิโนจากสาหร่ายทะเล
4. อะมิโนจากเลือดปลา
5. สารพิเศษจากอิสราเอล
6. สารในกลุ่มอาหารพืชอื่นๆ
😊ไร่เทพ คุณภาพขั้นเทพ
สอบถามข้อมูล-เทคนิคการปลูกพืชชนิดต่างๆ เรามีทีมส่งเสริมการขายที่เชี่ยวชาญ พร้อมตอบคำถามเกษตรกรตลอดเวลา
🌾👀🌾🍅🍆🌽🍄🌰 🍇🍈🍉🍊🍋🍌🍍🍎🍏🍐
—————————-
Tel. : 098-280-8200
—————————-

ไร่เทพสัญจรศูนย์วิจัยข้าว

ไร่เทพสัญจร “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ”

จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 17 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก ตำบลวังทอง อำเภอวังทอง พิษณุโลก